26 กุมภาพันธ์, 2568

อำเภอนาบอน

ประวัติความเป็นมา ทำเนียบข้าราชการนครศรีธรรมราช ครั้งรัชกาลที่ ๒ พ.ศ.๒๓๕๔ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนเจ้าพระยา-นครเป็นเจ้าพระยาสุธรรมมนตรีศรีโศกราช ในโอกาสนั้นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นศักดิพลเสพย์ กราบทูลพระกรุณาว่า พระหลวงกรมการเมืองนคร ขาดมิครบตามตำแหน่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นให้ครบดามตำแหน่ง ณ วันจันทร์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีมะเมีย ตรีศก (จ.ศ.๑๑๗๓)ในทำเนียบดังกล่าวนี้มีตำแหน่ง ขุนโจมธานี นายที่นาบอน นา ๔๐๐ ฝ่ายซ้าย ขุนศักดิ์ รองนายที่นาบอน นา ๒๐๐ และบ่งว่าที่วัดนาบอน เป็นที่เลณฑุบาตในที่ชมาย หลักฐานอันนี้แสดงว่าในปี พ.ศ.๒๓๕๔ นาบอนมีฐานะเป็นตำบลสำคัญตำบลหนึ่ง รองกว่าชมาย ซึ่งมีขุนกำแหงธานี ถือศักดินา ๘๐๐ เป็นนายที่ เมื่อนำฐานะของนายที่อื่นๆ ประกอบกัน พบว่าหลักฐานะของนาบอน อยู่ในระดับเดียวกับ เคร็ง, พนังดุง,พังไกร, นบทิตำ (นบพิดำ) เล็กกว่าที่เบี้ยซัด ร่อนพิบูลย์ที่เก้าระวาง (ระโนด) ช้างซ้าย ชื่อตำบลเหล่านี้มีนายที่ถือศักดินา ๘๐๐ เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๐ ได้มีการจัดการปกครองแผนใหม่ ที่นาบอนและที่ทุ่งสงได้ตั้งเป็นตำบลนาบอนและตำบลทุ่งสง อยู่ในเขตการปกครองอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชวลิต อังวิทยาธร กล่าวไว้ใน "จีน : ประวัติศาสตร์โบราณคดี ผู้คนและวัฒนธรรมนครศรีธรรมราช" ว่าในราวพ.ศ.๒๕๗๒-๒๔๗v๓ ชาวจีนที่ใช้ภาษาฮกจิ๋ว จากอำเภอฮกจิ๋วมณฑลฮกเกี้ยนที่เคยอพยพมาอยู่ที่เปรัค ประเทศมาเลเซียได้อพยพเข้ามาอยู่ในบ้านนาบอนและบ้านจันดี จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้เกิดประเพณีการสวดศพของจีนฮกจิ๋วซึ่งเรียกว่า "ชวงชัว" ที่อำเภอนาบอน ซึ่งเน้นกิจกรรมของศาลเจ้าที่เป็นลัทธิผสมผสานความเชื่อระหว่างเต๋ำขงจื้อกับพุทธศาสนามหายาน ซึ่งมี ๓ ศาลเจ้า คือ ศาลเจ้าจงซิ่นเต้าถ่าน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๒๙ ศาลเจ้าฟุกกงถ่าน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๔ และศาลเจ้าไท่ฮั่วสัมถ่าน ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ และที่คลองจันดี มีศาลเจ้า ฟุกกงถ่าน ก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๓๙ มีสมาชิกทั้งหมดเกือบ ๕๐๐ คน สมาชิกร้อยละ ๙๕ เป็นชาวฮกจิว ชาวฮกจิวที่นาบอนและคลองจันดีเป็นบรรพบุรุษของชาวฮกจิวในประเทศไทย นาบอน ซึ่งเป็นตำบลในเขตอำเภอทุ่งสง ต่อมาเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๘ ได้ยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอ โดยได้แยกตำบลทุ่งสง ตำบลนาบอน และบางส่วนของตำบลนาโพธิ์มาสังกัด จนถึง พ.ศ.๒๕๒๔ ได้ยกฐานะเป็นอำเภอนาบอนตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๙๘ ตอนที่ ๑๑๕ลงวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๔ ที่ว่าการอำเภอนาบอนถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ยกกำลังเข้าโจมตีและเผา ๒ ครั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๐ และครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๕ สถานที่ตั้งที่ว่าการอำเภอนาบอนในปัจจุบัน เป็นที่ซึ่งนายบุญทอง สันติกาญจน์ บริจาคให้เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคมพ.ศ.๒๕๑๕ จำนวน ๒๕ ไร่ สภาพทั่วไป นาบอน เป็นอำเภอขึ้นกับจังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ประมาณ ๑๙๒.๘๙๔ ตารางกิโลเมตร ที่ว่าการอำเภอห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๗๗ ตารางกิโลเมตร อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไป พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มอยู่ในบริเวณที่ราบเชิงเขา คือ พืดเขานครศรีธรรมราช เขาเหมน เป็นภูเขาลูกหนึ่งในเทือกเขานครศรีธรรมราชมีถ้ำที่พบพระพิมพ์ศิลปะศรีวิชัยมีหลายรูปแบบ เขาเหมนยังอุดมด้วยแร่ธาตุและพรรณไม้หลายชนิด เช่น พวงมุก ส้มแปะ หญ้าข้าวก่ำ เปล้าน้ำทอง ข้าวตอกฤๅษี ดอกสิงโต บัวแฉกเล็ก เป็นต้นการคมนาคมมีทั้งทางรถไฟ และรถยนต์ ลักษณะภูมิอากาศ อำเภอนาบอนมี ๒ ฤดูกาล ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนธันวาคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และฤดูร้อนเริ่มเดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายนในระยะเดือนพฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่มีฝนตกมากที่สุดทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งน้ำที่สำคัญ พื้นที่ทำการเกษตรของอำเภอนาบอนส่วนใหญ่อาศัยแหล่งน้ำธรรมชาติ คือน้ำฝนและลำธารต่างๆ แหล่งน้ำธรรมชาติมีลำคลองสายเล็กๆ ได้แก่ คลองจัง อยู่ทางทิศเหนือของอำเภอนาบอน โดยน้ำไหลผ่านในท้องที่หมู่ที่ ๔, ๕, ๖ และ ๗ ของตำบลนาบอน มีน้ำไหลตลอดปี คลองบิน อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอนาบอน ต้นน้ำเกิดจากแม่น้ำตาปี ไหลผ่านตำบลแสนแก้ว และตำบลนาบอนมีน้ำไหลตลอดปี จากการสำรวจในปี พ.ศ.๒๕๓๙ อำเภอนาบอนมีประชากรรวมทั้งสิ้น ๒๗,๔๙๗ คน ชาย ๑๓,๗๓๓ คน หญิง ๑๓,๗๖๔คน ประชากรนับถือพุทธศาสนา ประมาณร้อยละ ๙๙ และนับถือศาสนาคริสต์ร้อยละ ๑ วัฒนธรรมโดยทั่วไปแล้วแตกต่างจากอำเภออื่นๆ เช่น การใช้วงกาหลอแห่นำหน้าศพและมีประเพณีที่สำคัญคือ "ประเพณีปิดกรีด" (สิ้นสุดฤดูกาลกรีดยางพารา) เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเฉพาะท้องถิ่นนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี ลักษณะสภาพเศรษฐกิจทั่วไป ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางเกษตรเป็นหลัก คือ การทำสวนยางพารา สวนกาแฟ สวนโกโก้ และการทำนา เนื่องจากมีการปลูกยางพารามาก ดังนั้นจึงมีโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปยางดิบต่างๆ เช่น โรงงานน้ำยางข้น โรงรมยาง โรงงานผลิตแอร์ดรายซีส เพื่อรับรองผลผลิต อำเภอนาบอนยังเป็นที่ตั้งขององค์การสวนยางนาบอนที่สำคัญของการยาง ในเขตนครศรีธรรมราช สามารถผลิตยางส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศปีละมากกว่า ๒๕๐,๐๐๐ ตัน ทำรายได้แก่ประเทศปีละประมาณ ๔,๐๐๐ ล้านบาท อำเภอนาบอนแบ่งเขตการปกครองออกเป็น ๓ ตำบล ๒๙ หมู่บ้าน ดังนี้ ตำบลนายม ตำบลแก้วแสน และตำบลทุ่งสง สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ น้ำตกคลองจัง และสวนสาธารณะหนองไม้ตายเฉลิมพระเกียรติ (อัมมร ธุระเจน) ที่มา https://db.sac.or.th/thailand-cultural-encyclopedia/detail.php?id=20790