20 ตุลาคม, 2568
วัดเขาปูน วัดเก่าแก่ในอ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
วัดเขาปูน เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย  (รหัสวัด05800201001)  ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๘ ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่   มีประวัติศาสตร์และความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมอย่างยาวนาน วัดเขาปูนตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2320 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2508 ที่ได้ชื่อว่าเขาปูน เป็นเพราะในบริเวณวัดมีภูเขาเล็กๆ ลักษณะเป็นภูเขาหินปูน จึงได้ชื่อว่า เขาปูน
จุดเด่นของวัดคือ เจดีย์พระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก ตั้งอยู่บนยอดเขา ทรงระฆังคว่ำสีขาว มีบันไดขึ้นไปถึงเจดีย์จำนวน 300 ขั้น ภายในเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และมีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ เช่น พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระปางไสยาสน์ และปางสมาธิ อีกทั้งยังมีภาพเขียนเล่าเรื่องประวัติการสร้างวัดและสังขาร "พ่อท่านแก้ว" บรรจุอยู่ในโลงแก้ว  นอกจากนี้ บนยอดเขายังมีสำนักปฏิบัติธรรม พระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระนเรศวร พระปิยะมหาราช หอระฆัง และรูปของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
พระครูสังฆกิจพิมล (ชณศักดิ์ นนทามิตร) หรือท่านศักดิ์เจ้าอาวาสวัดเขาปูนเล่าว่า ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างมาในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช  ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จหนีจากกรุงธนบุรีแล้วก็มาตั้งรกรากที่นครศรีธรรมราช แล้วก็มาพักที่วัดเขาปูนนี้อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะไปพักที่วัดเขาขุนพนมในโอกาสสุดท้ายของชีวิตของพระเจ้าตากสิน  
ในยุคที่วัดเขาปูนมีความเจริญ ทุกคนรู้จักวัดเขาปูนว่ามีพระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก  สร้างโดยพระธุดงค์รูปหนึ่งชื่อว่าพระครูสมุห์แก้ว ปุญญภาโค หรือ พ่อท่านแก้ว  ซึ่งเป็นพระที่ธุดงค์มาจากจังหวัดเชียงใหม่  ประวัติของพ่อท่านแก้ว เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2485 จบลงเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เท่านั้น  เป็นชาว ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เดิม ชื่อแก้ว เมขลา  ท่านบวช เป็นสามเณรในงานศพของบิดา และศีกษาพระธรรมวินัยจวบจนถึงอายุอุปสมบทโดยมีหลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ติดตามหลวงปู่แหวนออกธุดงค์ในสถานที่ต่างๆ และเมื่อหลวงปู่แหวนหยุดธุดงค์ พ่อท่านแก้วก็ยังคงธุดงค์เพียงลำพัง ทั้งประเทศลาวกัมพูชา และจีน ก็ยังไม่ทำให้ท่านได้ค้นพบสิ่งที่หวังไม่ ท่านจึงตั้งใจออกธุดงค์มาทางภาคใต้
เมื่อพ่อท่านแก้วมาเจอวัดเขาปูน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และเชื่อว่า "เขาปูน"เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ "พ่อท่านแก้ว" ได้ธุดงค์มาปฏิบัติธรรม และเล่าว่า เมื่อพ.ศ.2528 ท่านเองก็ได้นิมิตเห็นเทพ 2 องค์มาบอกเรื่องการสร้างพระธาตุบนยอดเขาปูน แต่ความจริงอุปสรรคของการสร้างครั้งนี้ก็คือ ยอดเขาที่เต็มไปด้วยหินแหลมคมและหน้าผาอันสูงชัน ซ้ำด้วยยังมีต้นไม้อันหนาทึบ แต่ก็กลับมีนิมิตอันอัศจรรย์เกิดขึ้นคือ มีงูตัวใหญ่เลื้อยหายเข้าไป "พ่อท่านแก้ว" จึงได้พาคณะตามทางที่งูเลื้อยขึ้นไป ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถขึ้นไปสู่ยอดเขาปูนได้อย่างง่ายดาย หลังจากการสำรวจครั้งนั้นแล้วจึงเริ่มทำการก่อสร้าง ท่านได้นิมิตรเห็นเทพ 2 องค์ บอกให้สร้างเจดีย์บนยอดเขาปูน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยาก ด้วยภูเขาสูงชัน และงบประมาณในการก่อสร้างสูง ถึงแม้จะมีอุปสรรคในการจัดสร้างเพียงใด แต่แรงใจ แรงศรัทธาของศิษยานุศิษย์ทำให้ท่านทำสำเร็จได้ภายใน 3 ปี เริ่มสร้างพระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก วัดเขาปูน อ.พรหมคีรี  จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2529 และเสร็จในวันที่ 9ส.ค. 2532 
เมื่อข่าวการสร้างพระธาตุแพร่หลายออกไป ความคิดเห็นต่างๆของชาวบ้านก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ "พ่อท่านแก้ว" ก็ยังคงยืนยันเจตนาเดิมโดยการทำป้ายขนาดใหญ่ไว้ที่เชิงเขาปูนว่าจะทำการสร้างพระธาตุบนยอดเขาปูนมูลค่า 10 ล้านบาท เป็นการเชิญชวนผู้ศรัทธาร่วมสร้าง ข่าวความศรัทธาที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสายของผู้ที่มาช่วยงาน ด้วยเห็นความมุ่งมั่นของ"ท่านอาจารย์แก้ว" ที่นำคณะลงมือทำงานเองไม่ว่าจะเป็นการแบกถังปูน โบกถัง เป็นการสร้างกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้กับทุกคน ทำให้ช่วยกันทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ข่าวแพร่กระจายออกไปทำให้พลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในละแวกชุมชนและอำเภอใกล้เคียง  หลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก ต่างก็เดินทางมาช่วยเหลือทำบุญ สมทบทุนจนสร้างพระธาตุเสร็จใน พ.ศ.2530 และนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ มาก่อสร้างขึ้นมากมายดังที่พบเห็นในปัจจุบัน
"พ่อท่านแก้ว" ยังได้คำนึงถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยเฉพาะความเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งโรคมะเร็งก็ยังเป็นโรคร้ายแรงในขณะนั้น "พ่อท่านแก้ว" จึงได้มีความคิดจัดสร้างโรงพยาบาลที่รักษาโรคมะเร็งโดยเฉพาะ โดยท่านเองต้องการจะทำสิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยทั่วไปอย่างใจจริง ซึ่งการรักษาในโรงพยาบาลแห่งนี้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทำให้ชื่อเสียงของพ่อท่านแก้ว เป็นที่รู้จักและศรัทธามากขึ้นโดยไม่มีวันที่จะเสื่อมคลาย พ่อท่านแก้ว มรณะภาพในปี พ.ศ. 2550 ปัจจุบัน ร่างพ่อท่านแก้ว ยังคงอยู่ในโลงแก้ว ยังคงสภาพเดิม ประดิษฐานบนยอดเขา ปูน ร่างพ่อท่านแก้ว ยังคงอยู่สภาพเดิม(ไม่เน่าเปื่อย)
     ท่านศักดิ์เจ้าอาวาสวัดเขาปูนรูปปัจจุบันยังเล่าอีกว่า พ่อท่านแก้ว ท่านมาในสมัยนั้นก็จะมาเทศน์สอนในเรื่องต่างๆทุกๆวัน ท่านเป็นพระที่มีความเพียรเป็นเลิศ เป็นพระนักเทศน์ที่คนศรัทธาเป็นอย่างมาก ท่านได้สร้างถาวรวัตถุบนภูเขามากมาย เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของคนบริเวณอำเภอพรหมคีรี ท่าศาลา เมือง ร่อนพิบูลย์ ผู้คนมาเที่ยววัดกันมากในสมัยนั้น  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ที่วัดเขาปูนมีมากมายเช่น
พระดำ  พระดำนี้เป็นพระที่พระเจ้าตากสินมหาราชทรงปั้นด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ในการปั้นครั้งนั้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเหล่าวิญญาณของคณะและวิญญาณของผู้ที่ติดตามท่านแล้วมาเสียชีวิตในถ้ำเขาปูนเนื่องจากว่าท่านได้ไปตีเขาขุนพนม เอาเด็กเอาผู้หญิงเอาคนแก่เข้าไว้ในถ้ำ กะระยะเวลาในการตีชิงเขาขุนพนมผิด เมื่อตีชิงชัยชนะได้แล้ว เมื่อกลับมาที่ถ้ำเขาปูน ปรากฏว่า คนในถ้ำเสียชีวิตหมดแล้ว  จึงได้สร้างพระดำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับเหล่าวิญญาณเหล่านั้น เรื่องเหล่านี้ไม่เคยมีใครที่เอาประวัติเข้ามาเผยแพร่ต่อสังคม เป็นความเชื่อของชุมชน 
แม่นางผมหอม แม่นางผมหอมพ่อท่านแก้วเคยเล่าให้ฟัง ในสมัยนั้นอาตมามีบ้านอยู่แถวนี้ก็ได้ฟังประวัติของแม่นางผมหอม คือเป็นในเรื่องของโชค เป็นในเรื่องของลาภ เป็นในเรื่องของการงาน และเป็นในเรื่องของเมตตามหานิยม
เทวดาสองพี่น้อง เทวดาสองพี่น้อง องค์พี่เป็นเสือ องค์น้องเป็นงู ซึ่งเทวดาสองพี่น้องประดิษฐานหน้าถ้ำเทวดาสองพี่น้องมาตั้งแต่สมัยที่พ่อท่านแก้ว   ศาลาเทวดาสองพี่น้อง ตามตำนานเล่าว่า ชาวบ้านเขาปูนในสมัยนั้นได้ประสบภัยแล้งอย่างรุนแรง มีชายชาวจีนสองคนพี่น้อง คนพี่ชื่อว่าฮก คนน้องชื่อว่า เจ้าซี่ ได้มาช่วยกันขุดเหมืองส่งน้ำไปยังเขาปูนเพื่อช่วยบรรเทาภัยแล้ง  พี่ชายขุดจากห้วยหูนพ ปัจจุบันอยู่ที่กิโลเมตรที่ 2.5 เส้นทางน้ำตกพรหมโลก และมีศาลาเทวดาสองพี่น้องอยู่บริเวณเนินเขาด้านซ้ายมือ ทางขึ้นน้ำตก เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานของเทวดาสองพี่น้อง มีการจัดสร้างพระพุทธรูป รูปปั้นงู เสือ อยู่ ณ ศาลาแห่งนี้  ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเล่าว่า บางครั้งจะเห็นงูใหญ่เลี้ยงมาขวางถนนบริเวณศาลแล้วจากไป ซึ่งไม่เคยทำอันตรายผู้ใด ชาวบ้านเชื่อว่าเทวดาสองพี่น้องมาปรากฏให้เห็น
ตำนานเทวดาสองพี่น้องที่วัดเขาปูน อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับเทพผู้พิทักษ์วัดแห่งนี้ ซึ่งเกี่ยวพันกับตำนานการสร้างเจดีย์บนยอดเขาปูนอย่างน่าสนใจ เทวดาสององค์ที่ปรากฏในนิมิตของพ่อท่านแก้วนี้เองที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเทวดาผู้พิทักษ์วัด ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "เทวดาสองพี่น้อง" และมีการสร้างรูปปั้นขนาดใหญ่เป็นรูปยักษ์ 2 ตน ชื่อ กุมภา กับ กุมภี ยืนเฝ้าบันไดทางขึ้นเจดีย์บนยอดเขา ซึ่งเชื่อว่าเป็นยักษ์ที่ช่วยเหลือในการสร้างวัดด้วย
เทวดาสองพี่น้องวัดเขาปูน ไม่ได้เป็นเพียงรูปปั้น แต่เป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาและพลังแห่งการดลบันดาลที่ช่วยให้การสร้างเจดีย์สำเร็จลุล่วงไปได้ และกลายเป็นตำนานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในท้องถิ่นจนถึงปัจจุบัน
บนยอดเขา มีสามกษัตริย์ที่พ่อท่านแก้ว ปุญญภาโค ซึ่งเป็นผู้สร้างเจดีย์พระธาตุชัยมณีศรีฆะโลกบนยอดเขาปูนแห่งนี้ ก็คือพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสินมหาราชและพระปิยะมหาราช   องค์พระพรหม พระสีวลี และบริเวณด้านในเจดีย์ในปัจจุบันได้ประดิษฐานสรีระร่างของพ่อท่านแก้ว ท่านแก้ว มรณะภาพในปี พ.ศ. 2550 ปัจจุบัน ร่างพ่อท่านแก้ว ยังคงอยู่ในโลงแก้ว ยังคงสภาพเดิม  (โดยสรีระร่างของพ่อท่านแก้วไม่เน่าเปื่อย)พ่อท่านแก้วได้สร้างความเจริญให้กับที่นี่อย่างมากมายมหาศาล 
วัดเขาปูนยังเป็นจุดชมวิว 360 องศาของที่นี่ซึ่งมีที่เดียวในอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราชแห่งนี้เป็นที่เดียวที่สามารถชงวิวชมเมืองได้รอบ 360 องศาและมาทำบุญได้บุญด้วยสิ่งที่เล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนประกอบของสถานที่อย่างนี้สิ่งที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของที่นี่ก็คือพระธาตุไชยมณีศรีฆะโลก คนจะมาขอพรกันเยอะช่วยกันขนทรายขึ้นภูเขาทำสิ่งปลูกสร้างต่างๆบนภูเขาในพ.ศ. 2550 มรณภาพทุกสิ่งทุกอย่างขาดการบริหารจัดการที่ถูกต้องขาดแรงสนับสนุนในการดูแลในการบูรณะให้คงอยู่ซึ่งความสวยงามก็ทรุดโทรมลงตามกาลเวลาระบบน้ำระบบไฟบนภูเขาเสียหายหมดตอนนี้จะได้รับการบูรณะต่อจากนี้ ชนในการบูรณะวัดก็เป็นในงานทอดกฐินซึ่งจะทอดกฐินในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 
จึงใคร่ขอบอกบุญบอกข่าวไปยังนักบุญทั้งหลายว่าถ้าอยากช่วยให้ที่นี่เป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองอาจ เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางศูนย์รวมทางจิตใจอีกครั้งก็มาร่วมร่วมกันทอดกฐินของวัดเขาปูน ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เรามีแนวทางเรามีมุมที่จะทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมอีกครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มประเพณีอย่างจริงๆจังจังก็คือการตักบาตรหน้าล้อ เอารูปของเทวดาสองพี่น้องนำเสนอต่อสังคมในมุมกว้าง  การทอดผ้าป่าการทอดกฐินและนำการงานจัดงานมหรสพเพื่อรวบรวมดึงคนเข้ามาให้นึกถึงความจำเก่าเก่าให้นึกถึง ความเจริญเก่าเก่าอีกครั้งให้กลับมาที่นี่ปัจจุบันเป็นลูกของสังคมโซเชียลเป็นโลกของความรวดเร็ว ในการประกอบกิจการต่างๆ  จุดนี้สามารถที่จะดึงคนเข้ามาใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาสามารถที่จะดึงคนเข้ามาใกล้ชิดกับวัด เพื่อจะได้เรียนรู้ธรรมซึ่งเป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาจริงๆ อิงพระพุทธศาสนานำหน้าและความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีตามหลัง  เพื่อให้ควบคู่กันไป วัดแห่งนี้จะเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมพระพุทธศาสนาแห่งนี้จะเป็นศูนย์รวมของ คนยุคใหม่วัดแห่งนี้จะเป็นที่ที่รวบรวมกำลังจิตกำลังใจรวบรวมความเชื่อรวบรวมศรัทธาเพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาจริงๆ
	โบราณวัตถุที่พบบนยอดเขาปูน ได้แก่ เศษภาชนะดินเผาเนื้อหยาบตกแต่งผิวด้วยลายกดประทับลายเชือกทาบเป็นชิ้นส่วนขาของภาชนะที่มีลักษณะคล้ายเป็นหม้อสามขา เศษภาชนะดินเผาเคลือบเขียนลายสีน้ำเงินบนพื้นขาวและเขียนสีหลายสีบนพื้นขาวเป็นลักษณะของชาม (เครื่องถ้วยอันนัม) โบราณวัตถุที่ทำด้วยหินมีลักษณะคล้ายเป็นหินลับ 6 เหลี่ยมทำจากหินทราย โบราณวัตถุที่พบในถ้ำถ้วย ได้แก่ เศษภาชนะดินเผาเคลือบเขียนลายสีน้ำเงินบนพื้นขาวมีลักษณะเป็นจานเชิงและชาม สันนิษฐานว่าเป็นภาชนะเคลือบของอันนัม (เครื่องถ้วยเวียดนาม) และเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ชิง
รายนามเจ้าอาวาสวัดเขาปูน
1. พ่อท่านทิ่น (ลาสิขา)
2. พระครูมงคลสิทธิ์ (พ่อท่านหวาน) ในช่วงสมัยพ่อท่านหวานเป็นเจ้าอาวาส  พ่อท่านแก้ว ซึ่งเป็นพระธุดงค์
มาจำวัดที่วัดเขาปูนด้วย และได้สร้างเจดีย์พระธาตุชัยมณีศรีฆะโลก บนยอดเขาปูน 
3. พ่อท่านทิ่น (มรณภาพ)
4. พระครูสังฆกิจพิมล (ชณศักดิ์ นนทามิตร) ท่านศักดิ์ เป็นเจ้าอาวาสปี 2560 – ปัจจุบัน
แหล่งที่มา
- พระครูสังฆกิจพิมล (ผู้ให้สัมภาษณ์),น.ส.ศุภิษฐฌาณ์ ราชเวช, (ผู้สัมภาษณ์), ณ วัดเขาปูน ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช  วันที่ 6 มิถุนายน 2568 , 
-facebookพุทธาคม ปาฏิหาริย์อำนาจบุญ อริยะเหนือโลก
-https://th.wikipedia.org/
-ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
	









