13 ตุลาคม, 2568
วัดเบิก ต.ฉลอง โบสถ์ไม้แห่งเดียวของ อำเภอ สิชล
ประวัติวัดเบิก (โดยสังเขป) ตั้งวัดเมื่อ ก่อน พ.ศ. ๒๔๐๐ ตั้งอยู่ที่บ้านดอนมวง เลขที่ ๔๔ หมู่ที่ ๔ ถนน ต้นเหรียง บ้านยาน ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 
 	วัดเบิกอยู่ไม่ไกลจากวัดเจดีย์ (วัดไอ้ไข่) โดยมีระยะห่างเพียงประมาณ 500 เมตร ทำให้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้ศรัทธาสามารถแวะเยี่ยมชมได้  แม้ว่าจะมีแนวคิดที่จะพัฒนาวัดให้ทันสมัย แต่ทางวัดก็ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์โบราณสถานและศิลปะดั้งเดิมไว้ เพื่อไม่ให้สิ่งมีค่าทางประวัติศาสตร์สูญหายไป นอกจากอุโบสถไม้แล้ว วัดยังมีโบราณวัตถุอื่น ๆ เช่น เจดีย์โบราณ แผ่นธรณีประตู และพระประธาน
คำว่า "วัดเบิก" วัดเบิกเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดสำเภาคืน และเปลี่ยนมาเป็นวัดเบิก ตามพิธีเบิกเนตรพระลากวัดเขาน้อย พระพุทธรูปคู่เมืองฉลอง จึงจัดขึ้นที่วัดแห่งนี้ เป็นชื่อที่เรียกกันตามคำบอกกล่าวของคนรุ่นเก่า ว่าได้มีพระพุทธรูปทองคำลอยน้ำมาทางคลองท่าน้อยผ่านหน้าวัด ชาวบ้านจึงได้นำพระพุทธรูปทองคำองค์นี้มาประดิษฐานไว้ที่วัดเมื่อก่อนเรียกกันว่า "วัดสำเภาคืน" สาเหตุที่เรียก มีเรือสำเภาเข้ามายัง เมืองฉลอง แล้วเรือก็ได้ล่มที่หน้าวัด หลังจากนั้น ก็ได้ทำพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปทองคำขึ้น แล้วชาวบ้านก็พร้อมใจกันเปลี่ยนชื่อจากกวัดสำเภาคืนมาเป็น "วัดเบิกเนตร" เมื่อกาลเวลาผ่านพ้นมาคงเป็นเพราะความกร่อนของภาษา จึงทำให้คำว่าเนตรหายไป คงเหลือเพียงคำว่า "วัดเบิก" จึงเรียกอย่างนี้ตลอดมา ส่วนพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ก็ไม่สามารถที่จะประดิษฐานที่วัดเบิกได้ เพราะจะต้องล้มทุกครั้งแล้วผินเศียรไปทางทิศตะวันตกทุกครั้ง ชาวบ้านจึงเข้าใจกันว่าพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ต้องการจะไปประดิษฐานยังวัดที่อยู่เหนือสุดของแม่น้ำสายนี้คือวัดเข้าน้อย ชาวบ้านจึงทำพิธีอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดเข้าน้อย ก็สามารถที่จะประดิษฐานได้โดยไม่ล้ม ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่วัดเขาน้อย เป็นที่สักการะบูชาของศาสนิกชนทั่วไป ที่มาเยี่ยมวัดเขาน้อยได้กราบไหว้ ส่วนคลองท่าน้อยนั้น เป็นคลองสำคัญที่ใช้เป็นเส้นทางที่วัดเบิก เดิมชื่อวัด “สำเภาคืน” ตามตำนานซึ่งพอจะค้นคว้าได้และดูตามลักษณะพระพุทธรูปในพระอุโบสถ สันนิษฐานได้ว่า สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีหลักฐานที่ปรากฏชื่อวัดเบิก อยู่ในทำเนียบข้าราชการเมืองนครศรีธรรมราช สมัยรัชกาลที่ ๒ ทรงมีพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบริรักษ์ภูเบศรเป็นพระยาศรีธรรมโศกราชเดโช เมื่อเดือน ๑๒ ขึ้น ๕ ค่ำ ตรงกับปี พ.ศ.๒๓๕๔ ในพระบรมราชโองการฉบับนี้ ได้ปรากฏชื่อของหมื่นพรหมบุรี (สมุห์บัญชีของขุนอินทรพิชัย) มีศักดินา ๒๐๐ หมื่นคชบุรีสมุห์บัญชีอีกท่านหนึ่ง ศักดินา ๒๐๐ มีวัดถ้ำตีมัน ๑ วัดเบิก ๑ วัดกลาง ๑วัดถ้ำเทียนถวาย ๑ เป็นเลฑุบาทอยู่ที่ อลอง (อลอง อ่านตามโบราณว่า “หลอง” ปัจจุบันวัดเบิกได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมทุกปี สภาพพื้นที่จึงไม่สวยงาม มีพระครูวิศาลธรรมจารี เป็นเจ้าอาวาส


