14 ตุลาคม, 2568

ประวัติวัดชุมโขลง(ชุมโลง)ครูหมอช้าง อ.ท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

วัดชุมโขลง(ชุมโลง) ตั้งอยู่บ้านชุมโลง หมู่ที่ 1 ต.สระเเก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2476 เดิมชื่อวัดตลิ่งสูง เพราะมีตลิ่งติดกับคลองกลายบริเวณทิศเหนือ ปรากฏชัดในการสลักชื่อพระลากสร้างถวายวัดเมื่อปี พ.ศ. 2511 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2517 ชื่อเดิมของวัด คือ วัดตลิ่งสูง มาจากที่ตั้งของวัดซึ่งมีตลิ่งสูงอยู่ติดกับคลองกลาย และเคยเป็นท่าเทียบเรือสำเภาในสมัยโบราณ ต่อมาใช้ชื่อวัดว่า วัดชุมโลง และเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดชุมโขลง" ในภายหลัง เนื่องจากพื้นที่นี้ในอดีตเคยเป็นที่ที่มีช้างป่าลงมาเล่นน้ำ และเป็นที่ชุมนุมของช้าง
ความหมายของชื่อ: "ชุมโขลง" มาจากภาษาใต้ท้องถิ่น โดย "ชุม" หมายถึงการรวมตัวกัน และ "โขลง" หมายถึงช้างจำนวนมาก ที่มีหลายเชือก ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ จากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าต่อๆกันมาว่า การเป็นอยู่สมัยก่อน ชาวบ้านในพิ้นที่ ต้องอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ต้องคอยระวังเมื่อสัตว์ป่าลงมาที่แอ่งน้ำ เพราะโดยนิสัยของสัตว์ป่า มีความดุร้าย ใช้ความรุนแรงเมื่อชาวบ้านเข้าใกล้หรือเข้าไปยังบริเวณพื้นที่ของมัน ชาวบ้านต้องอยู่อย่างระมัดระวัง เมื่อช้างป่าลงมาในพื้นที่ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ต้องคอยให้ช้างป่ากลับขึ้นไปก่อน ถึงจะได้พื้นที่แอ่งน้ำในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นปัญหาที่ชาวบ้านยังคงแก้ไขไม่ได้ มีบ่อยครั้งที่ช้างป่า เกิดอาการตกมันขณะลงมายังบริเวณพิ้นที่แบบไม่ทราบสาเหตุ ทำลายข้าวของชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ชาวบ้านบางคนต้องออกจากพื้นที่ไปอยู่ที่อื่น เพราะทนกับเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆไม่ไหว บางคนยังคงอยู่ในพื้นที่ต่อไป เพราะดั้งเดิมเป็นคนที่นี่ ไม่อยากย้ายหนีสัตว์ป่าไปอยู่พื้นที่ไกลบ้าน มีการทำบริเวณกั้นบ้าง ทำรั้วกั้นแนวบ้าง แต่ด้วยนิสัยของช้างป่า ประกอบด้วยแรงกำลังของช้างที่ตัวใหญ่ก็ไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้
ชาวบ้านที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ก็ยังคงมาใช้น้ำในแอ่งน้ำเป็นปกติอยู่ทุกๆวันจนวันหนึ่งมีช่างป่าลงมาพอเห็นชาวบ้านอยู่ในพื้นที่แอ่งน้ำด้วยความที่มันมีนิสัยดุก้าวร้าวตามประสาสัตว์ป่าหรือเป็นเพราะมันกลัวคนจะทำร้ายมันก็ไม่ทราบแน่ชัดมันได้แสดงอาการร้องขู่ทำลายสิ่งของบริเวณรอบรอบทำกิริยาแสดงออกในท่าทางที่จะไล่คนออกไปจากพื้นที่ตรงนั้นลักษณะอาการคล้ายๆกับการตกมัน ช้างป่าตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหาชาวบ้านแสดงพฤติกรรมเหมือนจะเข้ามาทำร้ายแต่ยังไม่ทันถึงตัวมีผู้เฒ่าในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นคนเลี้ยงช้างมาก่อนมาใช้แอ่งน้ำในขณะนั้นอยู่พอดีซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นครูหมอเท่าที่มีวิชาอาคมด้านคุรุคชศาสตร์ ได้หยิบของสิ่งหนึ่งจากย่ามที่พกมาลักษณะเป็นไม้ขนาดข้อมือมีเหล็กงอที่ปลายด้ามด้านบน มาทราบภายหลังว่าคือตะขอช้าง หรือคชกุศ ยกชูขึ้นไปชี้ไปทางช้างที่วิ่งเข้ามาหาชาวบ้าน แล้วเกิดเหตุการณ์ที่ชาวบ้านต่างอึ้งไปต่ำตามกัน คือช้างหยุดก้าวร้าวทันทีเมื่อได้เห็นตะขอช้าง หรือคชกุศ ที่ชี้ไปทางมัน อาการดุอาการก้าวร้าวของช้างป่าได้หยุดลงทันที และเมื่อครูหมอเฒ่าได้ยกตะขอช้างเหวี่ยงขึ้นลงลักษณะเหมือนสะบัดมือไล่ช้างตาได้กลับขึ้นไปในที่ของมันอย่างเชื่อฟัง เป็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหลังจากนั้นชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้ความรู้จักครูหมอเฒ่า พร้อมทั้งสอบถามถึงที่มาของการไล่ช้างป่าซึ่งเป็นที่สนใจของชาวบ้านในขณะนั้นเป็นอย่างมาก
ในอดีต พื้นที่ตั้งวัดเดิมเป็นชุมชน "ครูหมอช้าง" และคอกช้างเก่าสมัยอยุธยา ซึ่งใช้เป็นสถานที่ฝึกและคัดเลือกช้างสำหรับสงครามและใช้งาน มีการทำพิธีกรรมเกี่ยวกับช้างและการฝึกช้าง ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เลยมีช้างป่าลงมาจากเทือกเขาเพื่อหาอาหารในบริเวณหมู่บ้าน โดยมีหลุมช้างหรือแอ่งอาบน้ำของช้างป่า (บันทึกอ้างอิงจากหนังสือท่าศาลา100ปี) ในอดีตมีศาลครูหมอช้างและเสาตะลุง (เสาสำหรับฝึกช้าง) เป็นที่สักการะของผู้คนในพื้นที่และคนเลี้ยงช้าง ปัจจุบัน วัดได้สร้างรูปปั้น "ตาหมอเฒ่า" เพื่อเป็นสัญลักษณ์และที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ้าน จึงเป็นที่มาของบ้าน*ชุมโขลง*หรือ*ชุมโลง*ในปัจจุบัน.
ปัจจุบันพระปลัดกิตติธัช สีลานุโลโม(ท่านบิว) เจ้าอาวาสวัดชุมโขลง ซึ่งท่านได้สืบทอดเชื้อสายจากบรรพบุรุษ(คุณทวด)เป็นผู้ที่เคยเลี้ยงช้างในสถานที่แห่งนี้มาก่อน จึงได้ร่วมกับชาวบ้านที่มีความศรัทธาในบารมี*ตาหมอเฒ่า*(ผู้ประกอบพิธีกรรมในการจับช้างในอดีตกาล)จึงได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อ..*ตาหมอเฒ่า* เพื่อเป็นสัญลักษณ์และระลึกถึงคุณงามความดี รวมทั้งเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่..ตามวิถีบุรุษครั้งสมัยอดีต ที่มาสืบค้นข้อมูล Facebook วัดชุมโลง ครูหมอช้าง จังหวัดนครศรีธรรมราช https://online.anyflip.com/gkvzk/njjv/mobile/index.html