04 มีนาคม, 2567

ประเพณี "ลาซัง - โต๊ะชุมพุก"

ความเป็นมาและความสำคัญ ประเพณีลาซัง-โต๊ะชุมพุก (ปูยอมือแน) นิยมทำกันในเดือน ๕ หรือ ๖ ของทุกปี ตามความเชื่อของชาวบ้าน คำว่า "ลาซัง" หมายความว่า การอำลาซังข้าว ซึ่งจะทำเมื่อเสร็จฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวของชาวบ้าน และจะเลือกวันที่เป็นวันมงคลที่เหมาะ กับการจัดพิธีเป็นพิธีกรรมที่ทำขึ้นเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวนาสนุกสนานหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำนามาทั้งปีและเป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจที่จะไถหว่านในปีต่อไป เมื่อเสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวในรอบปี เมื่อเสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวในรอบปี ในกรณีที่ร่วมกันหลายหมู่บ้าน ผู้นำหมู่บ้านจะหารือกำหนดวันทำพิธี เมื่อใกล้ถึงวันทำพิธีชาวบ้านก็จะนำเอาฟางจากที่นาของตนมาคนละกำมือนำมามัดรวมกันเป็นหุ่น(โต๊ะชุมพุก) จึงเป็นที่มาของคำว่า "โต๊ะชุมพุก" หุ่นผู้ชายคือเจ้าบ่าว หุ่นผู้หญิงคือเจ้าสาว ชายชื่อ ชุมพุก หญิงชื่อ สุนทรี พอถึงวันกำหนดนัดหมายทุกคนในหมู่บ้านจะแต่งกายด้วยชุดที่สวยงามเหมือนการแห่ ขันหมากไปแต่งงาน มีผู้ถือขันหมาก ชุดกลองยาว คนรำนำขบวนแห่และผู้ร่วมขบวนตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่แต่ในขันหมาก แทนที่จะเป็นพลูก็เป็นรวงข้าวที่จะนำไปทำพิธีทำขวัญข้าวเก็บไว้ในยุ้งฉาง เมื่อถึงสถานที่นัดหมาย ก็จะนำหุ่นโต๊ะชุมพุกทั้งหมดมาหาคู่ว่า หุ่นผู้ชายหมู่บ้านใดจะได้คู่แต่งงานกับหุ่นเจ้าสาวของหมู่บ้านใดโดยการหยิบ ฉลากจากประธานจัดงานเมื่อได้คู่แล้วเริ่มแต่งงานเหมือนพิธีแต่งงานของคนโดยทั่วไป โดยจะมีพระมาสวดอวยพร มีหมอขวัญมาทำพิธีแต่งงานกัน หลังจากได้คู่แล้วชาวบ้านในหมู่บ้าน เจ้าของหุ่นก็ได้เป็นญาติเกี่ยวดองกัน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นอีกทางหนึ่ง หากกระทำกันเฉพาะภายในหมู่บ้านก็เหมือนกัน ต่างกันแค่เพียงแต่จะมีหุ่นผู้ชาย(เจ้าบ่าว) และหุ่นผู้หญิง(เจ้าสาว) เพียง ๑ คู่เท่านั้น เหตุที่นำหุ่นฟางมาแต่งงานกันเพราะเชื่อว่าต้นข้าว เม็ดข้าวมีบุญคุณเลี้ยงเรามาและเป็นการอำลาต้นข้าวก่อนที่ตอข้าวจะถูกไถกลบ สำหรับการหว่านทำนาในฤดูกาลเพาะปลูกใหม่และการจัดการแต่งงานของโต๊ะชุมพุก ชาวบ้านมีความเชื่อว่าจะทำให้ มีลูกเกิดมาเป็นเม็ดข้าวจำนวนมากมายภายใน ภายในปีต่อไป ประเพณีนี้สืบเนื่องมาจากความเชื่อเรื่องที่นา เรื่องแม่โพสพ เชื่อว่าจะทำให้ข้าวในนาปีต่อไปงอกงาม ให้ผลผลิตสูง หลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ผู้นำชุมชนก็จะกำหนดวันลาซัง ก่อนวันลาซัง ต้องเตรียมการทำขนมจีน ชาวบ้านจะไปชุมชุมกันที่สถานที่จัดงาน ส่วนใหญ่มักจะเป็นศาลากลางทุ่งนา โดยจะจัดเตรียมลานกว้างกลางทุ่งนาเพื่อใช้จัดกิจกรรม หลังจากเสร็จพิธี จากนั้นชาวบ้านจะนำขนมจีนมาเลี้ยงพระ เสร็จแล้วจะกินขนมจีนร่วมกัน ประเพณีลาซัง จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสาน และธำรงไว้ ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น อีกทั้งส่งเสริมให้เกิดความรัก ความสามัคคี และอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างมีความสุข ตลอดจนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการประกอบอาชีพของชาวนรา ทั้งนี้ ประเพณีลาซัง หรือที่เรียกแตกต่างกันออกไปว่า ล้มซัง กินขนมจีน หรือ บูยอบือแน เป็นการบูชาพระแม่โพสพ เป็นพิธีฉลองนาข้าวหรือซังข้าว แต่ละพื้นที่จะมีการประกอบพิธีหรือรูปแบบการจัดงานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเชื่อทางศาสนา และบริบทของพื้นที่นั้นๆ การจัดงานครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ดี ที่ได้ช่วยกันรักษา สืบสาน ต่อยอดวัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นอันดีงาม ที่นับวันจะค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลาสำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตท้องถิ่นดั้งเดิม ของประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการทำนา เยาวชนเล่าถึงประวัติประเพณีลาซัง เป็นภาษาไทย-มลายู การสาธิตการทำอาหารคาว-หวาน การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแข่งขันเกี่ยวข้าว นวดข้าว และขูดมะพร้าว อีกทั้งการจัดบูธให้บริการ อาหาร ขนม เครื่องดื่ม สร้างความสุขให้กับผู้มาร่วมงานในครั้งนี้ ประเพณีลาซัง เป็นพิธีกรรมที่กระทำขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการประกอบอาชีพชาวนา หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำนามาทั้งปี ประเพณี "ลาซัง - โต๊ะชุมพุก" ได้ช่วยผ่อนคลายให้ชาวบ้านได้สนุกสนาน อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างขวัญ กำลังใจที่จะไถหว่านในปีต่อไป จึงเป็นประเพณีหนึ่งที่เราควรอนุรักษ์ไว้สืบไปเคียงคู่กับความกตัญญู ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยเรา เมื่อเสร็จสิ้นจากการเก็บเกี่ยวในรอบปีแล้ว บรรดาผู้นำหมู่บ้านก็จะหารือกันกำหนดวันทำพิธีลาซัง ฯ เมื่อใกล้ถึงวันกำหนดทุกบ้านก็จะเอาฟางจากที่นาของตนมาคนละกำมือ นำมามัดรวมกันเป็นหุ่น (โต๊ะชุมพุก) ผู้หญิงหรือผู้ชายก็จะกำหนดไว้ล่วงหน้า ให้มีจำนวนเท่ากัน โดยผลัดเปลี่ยนไปทุกหมู่บ้าน หุ่นผู้ชายคือเจ้าบ่าว หุ่นผู้หญิงคือเจ้าสาว การทำหุ่นจะระดมผู้มีฝีมือมาช่วยกันทำอย่างสุดฝีมือ พอถึงวันกำหนดนัดหมาย ทุกคนในหมู่บ้าน ก็จะแต่งกายด้วยชุดที่สวยงาม เหมือนการแห่ขันหมากไปแต่งงาน มีผู้ถือขันหมาก ชุดกลองยาว คนรำนำขบวนแห่ และผู้ร่วมขบวนแห่ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่ แต่ในขันหมากแทนที่จะเป็นพลูก็เป็นรวงข้าวที่จะนำไปทำพิธีทำขวัญข้าวเก็บไว้ ในยุ้งฉาง เมื่อถึงสถานที่นัดหมายก็จะนำเอาหุ่นโต๊ะชุมพุกทั้งหมดมาหาคู่ว่า หุ่นผู้ชายหมู่บ้านใดจะได้คู่แต่งงานกับหุ่นเจ้าสาวของหมู่บ้านใด โดยการหยิบฉลากจากประธานจัดงาน เมื่อได้คู่แล้วก็เริ่มพิธีแต่งงานเหมือนพิธีแต่งงานของคนโดยทั่วไป หลังจากได้คู่แล้วชาวบ้านในหมู่บ้านเจ้าของหุ่นก็ได้เป็นญาติเกี่ยวดองกัน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นอีกทางหนึ่ง ความหมายของคําว่า "โต๊ะชุมพุก" ดังนี้ โต๊ะ คือ คําพูดพูกพื้นบ้านที่เขาเรียกผู้เฒ่าผู้แก่ ชุม คือ การที่นําเอาไม้ไผ้ - ซังข้าว - เชือก - กระดาษ มาผูกรวมกัน พุก คือ เมื่อเสร็จพิธีทุกอย่างแล้วก็เอารูปหุ่นไปโยนทิ้ง ที่สุดก็ผุพังไป ลาซัง นับว่าเป็นประเพณีปฏิบัติอย่างหนึ่ง ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ได้เห็นการทำงานร่วมกันของคนในท้องถิ่นที่เปี่ยมไปด้วยความสมัครสมานสามัคคี และที่สำคัญที่สุดคือ ความเป็นยอดแห่งความกตัญญูกตเวที ที่มีต่อพระแม่โพสพซึ่งเป็นเทพแห่งข้าว
ที่มา http://www.openbase.in.th/node/8589 https://lasang.blogspot.com/2012/09/blog-post.html