20 มิถุนายน, 2567
เหล็กขูด เหล็กลิด
เหล็กขูดเป็นภาษาถิ่นใต้ เกิดจากการผสมระหว่างคำว่า “เหล็ก”กับคำว่า”ขูด” เป็นเหล็กขูด หมายถึงกระต่ายขูดมะพร้าว เป็นที่น่าสังเกตว่าการสร้างสับเหล็กขูด สามารถสื่อความหมายได้อย่างดียิ่งเพราะความหมายบ่งชัดอยู่ในคำที่นำมาประสมกันจะคำบอกเล่า ของผู้สูงอายุได้ความว่าเมื่อประมาณ 3 ชั่วอายุคนที่ผ่านมา ชาวบ้านภาคใต้ เมื่อจะใช้กะทิปรุงอาหาร หรือทำขนม จะนำมะพร้าวมากระเทาะเอาเนื้อออกจากกะลา ใส่ครกตำ แล้วนำมาคั้น ต่อมานำเอาไม้กะพ้อ ไม้เหลาชะโอน ไม้หมากหรือไม้อื่นๆที่ มีเสี้ยนแข็ง สามารถตัดขนาดโตประมาณท่อนแขน ตัดปลายด้านหนึ่งให้โค้งแบนและคมบางอย่างรูปปากเป็ดเรียกว่า ” ผล้ายปากเป็ด” แต่งส่วนปลายให้เป็นหยักอย่างฟันปลา นำไปใช้ขุดมะพร้าว สิ่งประดิษฐ์นี้เรียกกันว่า “ไม้ขูด” แต่เนื้อมะพร้าวที่ได้มามักจะหยาบและไม้ขูดที่ทำขึ้นแต่ละอันใช้ได้ไม่นานก็สึก จึงคิดหาวิธีใหม่โดย เอาตะปูมาต่อเรียงเป็นแผงเข้ากับแผ่นไม้ ให้ส่วนปลายโผล่จากแผ่นไม้อีกด้านหนึ่งเล็กน้อย นำมะพร้าวที่กะเทาะเปลือกแล้ว มา “ตรูน”หรือครูดเข้ากับแผงตะปูนี้ ก็จะได้เนื้อมะพร้าวที่ละเอียด แต่มีส่วนเสียตรงที่ กรรมวิถียุ่งยาก เพราะต้องกระเทาะเนื้อมะพร้าวจากกะลา เวลาตรูน ก็ช้ากว่าและมักจะเหลือเศษเนื้อมะพร้าวที่ตรูนไม่ได้อยู่ส่วนหนึ่ง ต่อมามีผู้คิดหาเหล็กมาทำด้านหนึ่งแหลมอีกด้านหนึ่งแบน ใช้ตะไบถูด้านบนเป็นซี่ๆ อย่างฟันปลาแล้วนำเหล็กนี้ไปปักเข้ากับหัวนอ สำหรับใช้ขุดมะพร้าวแต่ก็ไม่ค่อยสะดวก เพราะการปักเหล็กนี้จะปักไว้ถาวร จึงเสี่ยงอันตรายต่อผู้คนที่ไปมาบนบ้าน ในกรณีที่ผู้หญิงขุดมะพร้าวต้องนั่งคร่อมหัวนอ ก็ดูไม่สุภาพ จึงมีผู้คิดนำไม้ 3ง่าม มาเป็นที่รองนั่งให้แขนงไม้อันเล็กสุดเป็นที่ปักเหล็กสำหรับขูดมะพร้าว แต่ในพัฒนาการช่วงนี้บางท่านว่า มีผู้นำผาลไถ ที่ใช้แล้ว มาสวมเข้ากับไม้ 3 ง่าม ใช้ตะไบ ถูผาล ให้มีหยักเป็นฟันปลา แล้วต่อมาจึงนำเอาเหล็กที่ทำขึ้นเฉพาะสำหรับขูดมะพร้าวมาสวมหรือตอก เข้ากับไม้ 3 ง่ามแทน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเหล็กขูดที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเหล็กขูดในปัจจุบันมากที่สุด
เหล็กขูดมีส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วน คือตาเหล็กขูด ซึ่งใช้สำหรับขูดมะพร้าว และตัวเหล็กขูดซึ่งใช้สำหรับรองนั่งต้ตาเหล็กขูด ทำด้วยเหล็กดัดให้งออย่างคอห่าน ส่วนปลายแบนโค้งขนาดเท่า 3 นิ้ว มือมีฟันเรียงถี่อย่างฟันปลา ส่วนโคนอาจทำให้แหลม สำหรับปักลง บนส่วนของตัวขูด หรือทำเป็นบ้อง อย่างบ้องพร้าสำหรับสวมเข้ากับตัวเหล็ก ขูดก็ได้ ตาเหล็กขูดนี้จะต้องมีฟันไม่ถี่หรือห่างเกินไป ถ้าฟันถี่จะขุดมะพร้าวไม่ค่อยออก ถ้าฟันห่างเกินไป ก็จะหยาบยากต่อการคั้นมะพร้าว อนึ่ง ฟันจะต้องคม เวลาขูดไม่ต้องออกแรงมากนัก
ตัวเหล็กขูด เท่าที่พบทำด้วยวัตถุ3 อย่างที่ใช้มากที่สุดคือไม้ อีก 2 อย่าง ที่ไม่ค่อยปรากฏแพร่หลายคือกระดูกสัตว์เช่นกระดูกช้าง กระดูกปลาวาฬ และที่ทำด้วยเหล็กโดยทำเชื่อมติดเป็นชิ้นเดียวกับตาเหล็กขูด
ความน่าสนใจของตัวเหล็กขูด อยู่ที่การประดิษฐ์เป็นรูปต่างๆที่พบมากที่สุดได้แก่ รูปสัตว์ เช่น นาก ตะกวด กระต่ายปลาวาฬ กระจง หมู ม้า เต่า เสือ เป็ด ฯลฯ ประดิษฐ์เป็นรูปคน มีทั้งรูปเด็ก ผู้ใหญ่ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ประดิษฐ์เป็นที่รองนั่งธรรมดา แต่แกะตกแต่งลวดลายเป็นรูปสัตว์ รูปอวัยวเพศ และกระหนกงกงอนต่างๆ การประดิษฐ์ตัวเหล็กขูดเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความนึกคิดชาวบ้าน เห็นความเกี่ยวข้องระหว่างชาวบ้านกับสัตว์ต่างๆ เห็นปฏิกิริยาความสนใจ ต่อความเป็นไปของสังคมในบางช่วง เช่นเมื่อสังคมไทยมีการประกวดนางงามจักรวาล ก็มีผู้คิดทำลายเหล็กขูดเป็นนางงามดังนี้เป็นต้น สิ่งที่น่าสนใจในการทำเหล็กขูดคือการแสดงออกเกี่ยวกับเพศ เหล็กขูดส่วนหนึ่งแสดงออกในเรื่องเพศอย่างเด่นชัด เช่นทำรูปอวัยวะเพศชาย และรูปอวัยวะเพศหญิงไว้คู่กัน ในเหล็กขูดตัวเดียวกันทำเป็นรูปผู้หญิงเปลือยนอนหงาย แม้แต่ตั้วเหล็กวขูดที่ทำเป็นรูปสัตว์ก็มักทำส่วนของอวัยวะเพศให้เห็นเด่นชัด การแสดงออกเช่นนี้ เป็นการสื่ออารมณ์ขันของชาวบ้านอย่างธรรมดาๆ ไม่นึกเป็นเรื่องลามกอนาจารแต่อย่างใด เหล็กขูดรูปประหลาด ๆเหล่านี้ก็ใช้ขูดกันทั้งชายหญิงเรียกอารมณ์ขันมากกว่า คิดว่าถ้าผู้หญิงใช้แล้วจะต้องอับอายขายหน้า
สำหรับเด็กขู่ที่ใช้ในหมู่ชาวไทยมุสลิมบางตัวมีการแกะสลักลายในลักษณะประสมประสาน ระหว่างลวดลายของมลายูและของไทยอย่างเห็นได้ชัด แบบเดียวกับลายเขียนประกอบเรือกอและ นับเป็นตัวอย่างของความผสมผสานทางศิลปะของไทยกับมลายูได้ดีอีกอย่างหนึ่ง
ท้องถิ่นภาคใต้ชาวบ้านมักจะมีเหล็กขูดประจำบ้านแทบทุกครัวเรือน เพราะชาวภาคใต้ ชอบกินแกงกะทิและทำของหวานซึ่งปรุงด้วยกะทิเป็นพื้น และด้วยนิสัยการกินเช่นนี้เอง เมื่อมีงานส่วนรวม เช่นงานวัด หรืองานซึ่งต้องเลี้ยงอาหารคนจำนวนมาก จึงมีธรรมเนียมช่วยขุดมะพร้าว ถ้าเป็นงานส่วนรวมอย่างงานวัดชาวบ้านจะรู้หน้าที่โดยปริยายไม่ต้องมีคนไหว้วานเมื่อถึงเวลา ก็จะนำเหล็กขุดของตนไปช่วยงานกันอย่างพร้อมเพรียง แต่ถ้าเป็นงานส่วนบุคคล เช่น งานออกปากขอแรงช่วยทำงาน งานแต่งงาน งานบวช งานศพนี้ เจ้าภาพมักจะไปขอแรงให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ เรียกว่าออกปากขูดพร้าว โดยเจ้าภาพ จัดเตรียมปอกและผ่ามะพร้าวไว้ เมื่อถึงเวลาทุกคนที่มาช่วยขูดมะพร้าว ก็จะนั่งล้อมวง หะนหน้าเข้าหากัน แต่ละคนก็จะมีเหล็กขูดประจำตัว เวลาขุดมะพร้าว ผู้ชายมักจะนั่งคร่อมตัวเหล็กขูด ส่วนผู้หญิงจะนั่งเบี่ยงข้างพับขาทั้งสองไปด้านหลัง การขูดมะพร้าวเป็นกลุ่มเช่นนี้ เป็นโอกาสที่ทำให้หนุ่มสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกัน จนบางคู่ได้พบรักกันบนเหล็กขูดนี่เอง ดังเพลงลูกทุ่ง ชื่อ”เหล็กขูด” ของจักรพันธ์ ระวิพันธ์ ตอนหนึ่งว่า เหล็กขูดมีกันทุกบ้าน เวลามีงานเสียงดังครูดครูด เหล็กขูดมันพูดไม่ได้ ถ้ามันพูดได้มันคงจะพูด ไอ้เฒ่านี้กับอีสาวนั้น มันนั่งจีบกันบนหลังเหล็กขูด ธรรมเนียมการขุดมะพร้าวเช่นนี้ ยังเห็นได้ทั่วในชนบทภาคใต้ในปัจจุบัน
บางครั้งหลังจากการขูดมะพร้าวเป็นกลุ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกผู้ชายก็คิดเล่นสนุกกันต่อไปอีก โดยจับคู่กัน แล้วแต่ละคู่ขึ้นนั่งคร่อมเหล็กขูด ใช้มือจับเหล็กขูดยกขึ้นกระโดดยงโย่ยงหยก ให้ตาเหล็กขูดชนกัน ฝ่ายใดเสียจังหวะล้มล งก็ถือเป็นผู้แพ้ เรียกการเล่นอย่างนี้ว่า ชนเหล็กขูด การเล่นแบบนี้บางครั้งก็มีไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นการประลองวิทยาคม จะพบได้ในงานวัด โดยเฉพาะงานเทศน์มหาชาติ โดยแต่ละฝ่ายจะนั่งประนมมือบนเหล็กขูดของตน มีหมอไสยศาสตร์เสกคาถาใช้อำนาจมนต์ ทำให้ผู้นั่งบนเหล็กขูดไม่รู้สึกตัว มีอาการอย่างเดียวกับคนเข้าทรง จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เข้าชนเหล็กขูดกัน อย่างที่กล่าวมาแล้ว สร้างความสนุกขบขันได้อย่างดียิ่ง
เหล็กขูดดังกล่าวมาแล้วยังคงใช้กันทั่วไปในชนบท แต่ในเมืองที่ซึ่งต้องขูดมะพร้าวจำนวนมากๆ โดยไม่ต้องออกปากคนขุดมะพร้าว ก็คิดพัฒนาการเหล็กขูดให้ทำงานได้เร็วและเบาแรงมากขึ้นชนิดหนึ่ง ทำด้วยท่อนเหล็กยาวส่วนปลายเป็นฟันปลาโค้งมนท่อนเหล็กนี้วางพาดไว้กับคานไม้หรือเหล็กส่วนโคนทำเป็นเฟืองมีสายพานโยงไปยังบันไดสำหรับถีบ อย่างบันไดรถจักรยาน เมื่อจะใช้ก็ใช้ขาถีบบันไดท่อนเหล็กก็จะหมุน นำเอามะพร้าวที่ผ่าแล้วมาวางทาบเข้ากับส่วนปลายของท่อนเหล็กให้ขุดเนื้อมะพร้าวออกจนหมดเครื่องมือนี้เรียกว่าเหล็กขูดถีบ อีกแบบนึงจะใช้เครื่องจักรหมุนบดเนื้อมะพร้าวที่กระเทาะออกแล้วดังที่พบเห็นการในตลาดทั่วๆไปแต่เครื่องมือนี้ไม่เรียกว่าเหล็กขูดอีกแล้ว จะเห็นได้ว่าเหล็กขุดเป็นเครื่องใช้ที่พัฒนามาโดยตลอด แต่ชนิดที่ใช้คนนั่งขุดดังกล่าวในข้างต้น เป็นชนิดที่แพร่หลายที่สุดและตรงกับความคิดรวบยอดของทุกคนเมื่อได้ยินคำว่าเหล็กขูด (ขอบคุณข้อมูลจากคุณอุดม หนูทอง จากหนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคใต้เล่ม 18)
เหล็กคัดมะพร้าวเป็นเครื่องมือแคะเนื้อมะพร้าวออกจากกะลาหลังจากย่างไฟพอแห้งหมาดแล้ว เพื่อนำมาทำเป็นมะพร้าวแห้งต่อไป นิยมใช้กันในหมู่ชาวสวนมะพร้าว เช่นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหล็กคัดมะพร้าว ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือตัวเหล็กคัดและด้ามเหล็กคัดทำด้วยเหล็กรูปคล้ายเคียวแต่แบนและสั้นกว่า ปลายตัดมีคมเล็กน้อย มีกั่นสำหรับสอดใส่ในด้าน โตขนาดเท่าปลายนิ้วชี้ หนาประมาณ0.7-0.8 เซนติเมตร ยาวประมาณหก 7 เซนติเมตร ก้นแหลมยาวประมาณ 8-9 เซนติเมตร ส่วนด้ามทำด้วยไม้ที่มีเนื้อไม่แข็งนัก เพราะต้องเจาะรูสำหรับสอดกั่น เข้าด้ามโต ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 3- 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 12 - 15 เซนติเมตร เวลาใช้จะจับด้ามฟอร์ดเหล็กคัดเข้าระหว่างเนื้อมะพร้าวกับตลาดที่ผ่าซีกแล้วใช้แรงงัดแล้วหมุนไปรอบๆเนื้อมะพร้าวก็จะหลุดออกจากกะลา
เหล็กลิด
เหล็กลิดหรือบางแห่งเช่นสงขลาเรียกเหล็กคัด เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งสำหรับใช้ปอกเปลือกมะพร้าว นิยมใช้กันในหมู่ชาวสวนมะพร้าว เช่นอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหล็กลิด ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือตัวเหล็กลิดและได้ม้าม ตัวเหล็กลิด ทำด้วยเหล็กรูปคล้ายเสียมแต่ปลายแหลมคมมีบ้องสำหรับสอดใส่ด้าม ขนาดเล็กลิด ส่วนที่ใช้ปลอกมะพร้าวกว้างประมาณ 7- 8 เซนติเมตร หนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร ส่วนบ้องกลมเรียวเข้าหาตัวเหล็กลิด เหมาะสำหรับสอดใส่ด้าม บ้องโตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร ความยาวประมาณ7- 8 เซนติเมตร ส่วนด้ามทำด้วยไม้เนื้อแข็งเช่นไม้เคียน ไม้หลุมพอ เหลากลมยาวประมาณ 80- 90 เซนติเมตร หัวท้ายเรียวแหลมสำหรับเข้าบ้องและอีกด้านสำหรับฝังลงดิน เมื่อใช้งานวิธีใช้งานเหล็กลิด นิยมปักส่วนด้ามลงในดินบริเวณลานลิด ให้โผล่เนเหนือพื้นดินประมาณหนึ่งศอกคืบ หรือพอเหมาะกับความสูงของผู้ปอก เมื่อใช้งานปกติผู้บอกจะยืนปลอกโดยจับผลมะพร้าวมาเสียบลงบนปลายเหล็กแหลมของเหล็กลิด ตรงกึ่งกลางผลค่อนๆ ไปทางหัวเล็กน้อย แล้วงัดเอาเปลือกออกเป็นชิ้น ทำเช่นนี้จนหมดเปลือก ข้อมูลจาก (หนังสือสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ เล่ม 18 จากศูนย์ศิลปฒวันธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช )