20 มิถุนายน, 2567

หัตถกรรม จักสานต้นคลุ้ม

หัตถกรรม จักสานต้นคลุ้ม
ประวัติความเป็นมา นับพันปีมาแล้ว ที่มนุษย์ได้รู้จักวิธีการนำวัตถุดิบที่อยู่ใกล้ตัว มาดัดแปลงเป็นสิ่งของเครื่องใช้ จากขั้นตอนที่ง่ายจนวิวัฒนาการสู่ความละเอียดอ่อน ประณีตงดงามในเชิงศิลปะและประโยชน์ใช้สอย จนสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี และสืบทอดมาจนปัจจุบัน กรรมวิธีดังกล่าว ช่วยให้มนุษย์ได้ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก เราเรียกสิ่งประดิษฐ์นั้นว่า “หัตถกรรม” อันหมายถึง การสร้างสิ่งของเครื่องใช้ด้วยมือ เครื่องมือ ภูมิปัญญา เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวัน และถ้าสิ่งประดิษฐ์นั้นมีค่ามากกว่าการใช้สอย โดยรวมความงาม เน้นให้เห็นถึงการสร้างสรรค์ ประณีตงดงามเป็นความละเอียดอ่อนในทางศิลปะ เรามักเรียกสิ่งประดิษฐ์นั้นว่า “ หัตถกรรมศิลป์ เครื่องจักสานถือได้ว่าเป็นแขนงหนึ่งในงานหัตถกรรมและหัตถกรรมศิลป์ ที่ได้ทำหน้าที่รับใช้มนุษย์มานานนับพันปีเช่นเดียวกัน จนปัจจุบันเครื่องจักสานก็ยังคงทำหน้าที่ไม่น้อยกว่ายุคสมัยที่ผ่านมา พร้อมกับการพัฒนาวิธีการผลิต รูปแบบและการตลาด จนสามารถกระจายแพร่หลายอย่างทั่วถึงทั้งในและต่างประเทศ จนสามารถเป็นสินค้าออกที่เชิดหน้าชูตาได้ดีประเภทหนึ่ง เช่นการนำผักตบชวามาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ การนำเอาเสื่อจันทบูร มาตัดเย็บเป็นรูปทรงต่างๆ เป็นของชำร่วย จนถึงของใช้ เช่นกระเป๋าถือ และแฟ้มใส่เอกสาร รวมถึงงานที่ประณีตด้วยฝีมือ อย่างย่านลิเภา เครื่องจักสาน คือ เครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้ไผ่หรือหวาย จากฝีมือความคิด ภูมิปัญญาของชาวบ้านมีลักษณะรูปทรงแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ วัสดุอุปกรณ์คตินิยม และอาชีพของคนในท้องถิ่นนั้นๆ คำว่า “ จักสาน” คำว่า จัก คือ การทำให้เป็นแฉก เป็นหยักๆ ด้วยฟันเลื่อย หรืออีกวิธีการหนึ่ง การที่ชาวบ้านใช้คมมีดผ่าไม้ไผ่แล้วทำให้เป็นเส้นบางๆ วิธีการอย่างนี้ก็เรียกว่า จัก เช่นกัน ส่วนไม้ไผ่ หรือ หวาย ที่จักออกมาเป็นเส้นบางๆ นั้นเรียกว่า ตอก ถึงตอนนี้การที่ชาวบ้านนำตอกมาขัดกันจนเกิดลวดลายที่ต้องการ เราเรียกว่า สาน ต่อจากนั้นแล้วก็จะเป็นการสร้างสรรค์ให้เกิดรูปทรงต่างๆ จนท้ายที่สุดเป็นภาชนะสามารถนำไปใช้สอยได้ตามต้องการ จักสาน หรือเครื่องจักสานมีมานาน มีหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และจนถึงปัจจุบันก็ยังใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ภูมิปัญญาการใช้วัสดุจากธรรมชาติ มาถัก ทอ สาน เป็นภาชนะ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ลักษณะ รูปร่าง ขึ้นรูป ต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน ของแต่ละท้องถิ่น แต่ละอาชีพ รูปร่าง ลวดลาย และวัสดุ แตกต่างกัน ทำให้เครื่องจักสานแต่ละท้องถิ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พัฒนาพืชต้นน้ำ “ต้นคลุ้ม” ด้วยแนวคิดใช้ทุนน้อยผลตอบแทนคุ้ม ด้วยการสร้างของใช้ประเภท จักสาน ที่ทำมาจากต้นคลุ้ม ที่มีคุณสมบัติ ปลูกได้ดีในพื้นที่ลาดเชิงเขา สามารถปลูกในสวนยางพารา สวนผลไม้ได้โดยไม่ต้องโค่นต้นไม้ ปรับพื้นที่ เพื่อปลูกคลุ้ม พืชคลุมหน้าดิน ป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง การพังทลายของดิน อุ้มน้ำสร้างความชุ่มชื้นให้กับดิน และดูดซับสารเคมี ลักษณะเด่นของเส้นคลุ้ม คือความเหนียว ทน ใช้ได้นาน ไม่ขึ้นรา ไม่เป็นมอด ปลอดสารเคมี และรักษ์สิ่งแวดล้อม ลำต้นตรง ไม่มีข้อ สีสวย เหนียว ทน ชุมชนสร้างสรรค์เครื่องจักสาน ประณีต งดงาม มีเอกลักษณ์ สร้างรายได้ คลุ้ม พืชพื้นถิ่นขึ้นในพื้นที่คาคใต้ เป็นพืชยืนต้นชนิดเดียวกับคล้า ต่างกันที่ คล้าขึ้นในที่ลุ่ม ใกล้น้ำ เนื้ออ่อน มักนำมาสานเป็นเสื่อ สาด คลุ้มขึ้นตามเนินเขา ไกลน้ำได้ เนื้อเหนียว แข็ง ทน นิยมสานเป็นวัสดุใช้สอย นอกจากนี้คุณค่าของ “คลุ้ม” พืชพื้นถิ่นมีศักยภาพในการสร้างความสมดุลทางระบบนิเวศให้กับผืนป่าต้นน้ำ ช่วยดักตะกอน ดูดซับสารเคมีในแหล่งน้ำ กักเก็บน้ำ ลดการกัดเซาะและการพังทะลายของหน้าดิน โดยเฉพาะบริเวณป่าเชิงเขาที่มีความลาดชันสูง รู้คุณ รู้ค่าพร้อมอนุรักษ์ผืนป่าต้นน้ำ ควบคู่ไปกับงานอาชีพ งานจักสานจากภูมิปัญญาชาวบ้าน จักสานคลุ้ม หนึ่งการเลือกซื้อคือแรงหนุนรักษาป่าต้นน้ำ วัตถุดิบที่นำมาผลิตและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจักสานต้นคลุ้ม 1. ต้นคลุ้ม 2. ตอกหวาย 3. ไม้ไผ่ 4. ตอกคลุ้ม 5. น้ำมันสน 6. แลคเกอร์ 7. แชลค 8. วานิช 9. มีด เป็นเครื่องมือสำหรับแปรรูปวัสดุธรรมชาติมาเป็นวัสดุสำหรับทำเครื่องจักสาน มีดที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมีดเหล็กกล้าที่มีเนื้อแกร่งและมีความคมมากอ มี 2 ชนิด คือ - มีดที่ใช้สำหรับใช้ฟันหรือตัดผ่าไม้ เป็นมีดขนาดค่อนข้างใหญ่ มีสันหนาประมาณ 1 เซนติเมตร โดยทั่วไปจะเป็นมีดหัวตัด มีดโต จะใช้ในการทำเครื่องจักสานขั้นตอนแรก คือ เริ่มตัดไม้ไผ่ หรือหวาย มาจากป่า แล้วตัดทอน ผ่าเป็นชิ้น สำหรับเตรียมจักเป็นตอก - มีดตอก เป็นมีดสำหรับใช้จักตอก มีรูปเรียวแหลม ปลายและด้ามงอน ส่วนมากตัวมีดจะสั้นกว่าด้ามมีสันค่อนข้างบาง เพื่อให้มีน้ำหนักเบาและใช้งานสะดวก 10. เหล็กหมาด เป็นเหล็กปลายแหลมสำหรับใช้เจาะ งัด แงะ มีอยู่ 2 ชนิดคือ - เหล็กหมาดปลา มีด้ามกลมๆทำด้วยไม้ ใช้แยง ไช แงะตามรูตอก สำหรับร้อยหวาย ในการถักขอบ - เหล็กหมาดปลายแบน เป็นเหล็กแหลมปลายแบนคล้ายปลายลูกศรหรือใบหอก มีด้ามกลม ๆ ยาว ประมาณ 4-6 นิ้ว ใช้สำหรับเจาะขอบไม้ไผ่หรือหวาย หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ใช้เป็นเครื่องประกอบของเครื่องจักสาน 11. คีมไม้ มีลักษณะคล้ายคีมทั่วไป คือ มีส่วนปากสำหรับหนีบ มีด้ามจับ มักทำด้วยไม้เนื้อแข็งและเหนียว ใช้หนีบขอบปากของเครื่องจักสานเวลาผูกขอบหรือเข้าขอบ เช่น การเข้าขอบกระบุง ขอบเข่ง เป็นต้น ขั้นตอนวิธีการทำผลิตภัณฑ์จักสานจากต้นคลุ้ม 1. การคัดเลือกต้นคลุ้ม ในการเลือกต้นคลุ้มที่จะนำมาสานเป็นผลิตภัณฑ์นั้น จะต้องเลือกต้นคลุ้มที่มีความพอดี ไม่อ่อนและแก่เกินไป การเลือกต้นคลุ้มที่พอดี คือ ลำต้นจะมีความยาวประมาณ 120-150 เซนติเมตร และสังเกตที่ยอดของต้นคลุ้มที่แตกกิ่งไม่น้อยกว่า 2 กิ่ง ขึ้นไปจะมีความพอดี 2. ขนาดและการตกแต่ง นำวัตถุดิบที่เป็นส่วนในการทำเครื่องจักสาน ที่มีอายุพอสมควร นำมาเหลาหรือเกลาให้มีขนาดตามความต้องการของชิ้นงาน 3. วิธีการจักตอก - การจักตอกปื้น แบ่งไม้ไผ่ออกเป็นชิ้นๆตามขนาดที่ต้องการ ใช้มีดจักตอกเอาส่วนในออก (ขี้ตอก)จักในส่วนที่เหลือออกเป็นเส้นบางๆ แล้วหลาวให้เรียบร้อยตากแดดให้แห้ง - การจักตอกตะแคง ใช้วิธีเดียวกันกับการจักตอกปื้นเบื้องต้น แต่การจักให้เป็นเส้นตอกจะทำการจักทางผิวเป็นเส้นเล็กกว่าตอกปื้น ทำการหลาวให้เรียบร้อย แล้วนำออกตากแดด - การจักไพล ใช้วิธีเดียวกับการจักตอกตะแคง แต่การหลาวจะหลาวให้เป็นเส้นกลมแบบเท่ากัน ทำการหลาวให้เรียบร้อย แล้วนำออกตากแดด 4. การขึ้นรูปทรงผลิตภัณฑ์ นำวัตถุดิบที่เกลาหรือตกแต่งเสร็จแล้วนำมาทำผลิตภัณฑ์ โดยขึ้นรูปทรงขนาดตามที่ต้องการ 5. การสาน ทำการจักสานตอกหรือวัตถุดิบ เป็นขั้นตอนที่ยาก และต้องใช้ความละเอียดมากที่สุด เริ่มจากการก่อฐานด้านล่างด้วยเส้นตอกสองชนิด คือ ตอกยืน (ตอก-ตั้ง) ซึ่งจะมีลักษณะคอดตรงกลางต่างจากตอกทั่ว ๆ ไป และตอกนอน (ตอกสาน) ที่มีขนาดกว้างเท่ากันเท่ากันทั้งเส้นตากปกติ เหตุที่ตอกยืนมีลักษณะพิเศษ เนื่องมาจากเมื่อสานเสร็จจะได้ตะกร้าที่มีฐานเล็ก และค่อย ๆ บานขึ้นบริเวณปาก เป็นรูปทรงผลิตภัณฑ์ ตามความต้องการของลูกค้า 6. การถักและพัน เมื่อสานตัวเรียบร้อยก็ถึงการรมควันโดยจะทำในวันที่ไม่มีลม ใช้ฟางพรมน้ำหมาด ๆ เป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้เกิดควันมาก รมจนเครื่องจักสานมีสีเหลืองเท่ากันทั้งใบ แล้วนำมาเข้าส่วนประกอบหวาย มีการผูกปาก พันขา ใส่ฐานและหูหิ้ว 7. การรมควัน เป็นของการสานเพื่อเพิ่มความแข็งแรง สวยงาม แก่เครื่องจักสานด้วยตอกคลุ้มและหวาย ในส่วนที่ต้องการเสริมเป็นพิเศษได้แก่ ปาก ขา หู การผูกและพันด้วยหวาย จะเสริมให้เครื่องจักสานเกิดความสวยงาม 8. การทาน้ำมันแลคเกอร์ นำผลิตภัณฑ์ที่ทำการจักสานเสร็จ ตกแต่งให้เรียบร้อยพร้อมทาน้ำมันสน ปัจจุบันทาน้ำมันแลคเกอร์ ทำให้เกิดความสวยงาม รักษาเนื้อวัตถุดิบ ให้มีอายุการใช้งานนานขึ้น เสร็จแล้วนำไปตากแดดประมาณ 2-3 ชั่วโมงสามารถนำมาใช้งานได้