19 มกราคม, 2568

ประวัติอำเภอทุ่งสง

คำขวัญ: ถ้ำตลอดงามตระการ อุทยานน้ำตกโยง โรงงานมากมี สถานีชุมทาง ศูนย์กลางราชการ ทรงประทานพระคู่เมือง ลือเลื่องแม่กวนอิม
ทุ่งสง เป็นอำเภอที่มีความเจริญเป็นอันดับสองของจังหวัดนครศรีธรรมราช[ต้องการอ้างอิง] รองจากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ตรงกลางของภาคใต้และเป็นจุดศูนย์กลางคมนาคมทางบกทั้งรถยนต์และรถไฟ อำเภอทุ่งสงมีประวัติความเป็นมายาวนาน ปรากฏตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราชว่าเคยเป็นแขวงขึ้นอยู่ในปกครองของเมืองนครศรีธรรมราชตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองจากมณฑล เป็นจังหวัด เมื่อ พ.ศ. 2440 ได้จัดตั้งเป็นอำเภอทุ่งสงขึ้นกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ตั้งและอาณาเขต อำเภอทุ่งสงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากศูนย์กลางของจังหวัดประมาณ 60 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดข้างเคียงดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอนาบอน อำเภอช้างกลาง และอำเภอลานสกา ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอร่อนพิบูลย์และอำเภอจุฬาภรณ์ ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอชะอวด อำเภอป่าพะยอม (จังหวัดพัทลุง) อำเภอห้วยยอด และอำเภอรัษฎา (จังหวัดตรัง) ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอบางขันและอำเภอทุ่งใหญ่ ภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศของอำเภอทุ่งสง สามารถแบ่งออกได้ 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูมรสุม หลังจากสิ้นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อนจัดที่สุดในเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้ฝนตกทั่วไป ในช่วงฤดูฝนยังมีช่วงความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้เป็นระยะ ๆ อีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้ฝนตกมาก และเนื่องจากจังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของภาคใต้ จึงทำให้ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทยอย่างเต็มที่ ทำให้ฝนตกมากในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ด้วยเหตุนี้ อำเภอทุ่งสงจึงไม่มีหน้าหนาว มีเพียงฤดูร้อน และฤดูฝนที่ยาวนานมาก ประวัติ พ.ศ. 1588 เจ้าศรีราชา ได้ยกพลจากเมืองเวียงสระ มาอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นเมืองร้างในขณะนั้น และได้ให้ไพร่พลได้แผ้วถางป่าให้เป็นนา และตั้งเมืองมานั้นแต่นั้น พ.ศ. 2354 ในสมัยรัชกาลที่ 2แห่งราชวงศ์จักรี ได้แบ่งการปกครองพื้นที่เมืองทุ่งสงออกเป็น 4 แขวง พ.ศ. 2440 เมื่อเปลี่ยนระบบการปกครองจากระบบมณฑลเป็นระบบจังหวัด ได้รวบรวมพื้นที่จัดตั้งอำเภอทุ่งสงเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีการปกครองแบ่งเป็น 22 ตำบล พ.ศ. 2449 เนื่องด้วยพื้นที่ของอำเภอทุ่งสงมีขนาดใหญ่มาก ไม่สะดวกต่อการปกครอง ทางการได้แยกตำบลลำทับไปขึ้นกับอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และแยกพื้นที่บางส่วนของอำเภอทุ่งสงออกไปจัดตั้งเป็นอำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยตำบลท่ายาง ตำบลทุ่งใหญ่ ตำบลกุแหระ ตำบลปริก ตำบลทุ่งสังข์ พ.ศ. 2474 เนื่องจากพื้นที่ส่วนราชการคับแคบลง จึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอออกไปยังพื้นที่ใหม่ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอทุ่งสงมาตราบจนทุกวันนี้ ส่วนที่ว่าการอำเภอเดิมนั้นปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาลเมืองทุ่งสง พ.ศ. 2482 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกทั่วภาคใต้ อำเภอทุ่งสงจึงเป็นสถานที่สำคัญในเป้าหมาย เพราะญี่ปุ่นได้วางแผนที่จะรวมพลที่อำเภอทุ่งสง และจะเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ โดยทางรถไฟ จึงทำให้สถานที่หลายแห่งได้รับความเสียหายจากระเบิด โดยเฉพาะสถานีรถไฟร่องรอยจากระเบิดพอที่จะมีให้เป็นสระน้ำหลังสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง และลูกระเบิดที่ตั้งแสดงที่บันไดทางขึ้นที่ว่าการอำเภอ 2 ลูก นอกจากนี้วัดโคกหม้อเดิมได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดชัยชุมพล เนื่องจากมีการรวมพลทหารญี่ปุ่นกันที่วัด พ.ศ. 2483 ตำบลปากแพรกได้ยกฐานเป็นเทศบาลตำบลปากแพรก มีเนย ศิลปรัศมี เป็นนายกเทศมนตรีคนแรก แต่เนื่องด้วยในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น ได้มีการย้ายสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสงจากพื้นที่ตำบลทุ่งสงมาตั้งอยู่ในตำบลปากแพรก ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร จึงเป็นเหตุให้คนส่วนใหญ่เรียกพื้นที่ตำบลปากแพรกว่า "ทุ่งสง" ตามชื่อสถานีรถไฟ พ.ศ. 2500 ได้เกิดอัคคีภัยในตลาดทุ่งสงครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้บ้านเรือนถูกไฟเผาผลาญวอดวาย เศรษฐกิจจึงซบเซาอยู่ชั่วระยะหนึ่ง พ.ศ. 2518 ได้แยกตำบลนาบอน ตำบลทุ่งสง และตำบลนาโพธิ์บางส่วน ตั้งเป็นกิ่งอำเภอนาบอน ต่อมายกฐานะเป็นอำเภอนาบอน เมื่อ พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2522 ได้แยกตำบลนาโพธิ์ ประกอบด้วยหมู่ที่ 1, 3, 7, 8 และ 9 ไปเป็นตำบลเขาขาว พ.ศ. 2527 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศแยกตำบลบางขัน ตำบลลำนาว และตำบลวังหิน เป็นกิ่งอำเภอบางขันและได้ยกฐานะเป็นอำเภอบางขันเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 พ.ศ. 2547 เทศบาลตำบลปากแพรกได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองทุ่งสง เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2547 ความพยายามจัดตั้งจังหวัดทุ่งสง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการจัดตั้งจังหวัดสว่างแดนดินและจังหวัดทุ่งสง เนื่องจากระยะทางระหว่างอำเภอห่างไกลจากตัวจังหวัด เพื่อประโยชน์ในการปกครองและกระจายความเจริญ[1] การแบ่งเขตการปกครอง การปกครองส่วนภูมิภาค อำเภอทุ่งสงมีพื้นที่ประมาณ 802.977 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 501,860.02 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 8.08 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ทั้งนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,942.50 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,214,064 ไร่ อำเภอทุ่งสงแบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 ออกเป็น 13 ตำบล 124 หมู่บ้านได้แก่ 1. ปากแพรก 2. ชะมาย 3. หนองหงส์ 4. ควนกรด 5. นาไม้ไผ่ 6. นาหลวงเสน 7. เขาโร 8. กะปาง 9. ที่วัง 10. น้ำตก 11. ถ้ำใหญ่ 12. นาโพธิ์ 13. เขาขาว การปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่อำเภอทุ่งสงประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองทุ่งสง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปากแพรกทั้งตำบล เทศบาลตำบลที่วัง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลที่วังทั้งตำบล เทศบาลตำบลชะมาย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลชะมายทั้งตำบล เทศบาลตำบลถ้ำใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลถ้ำใหญ่ทั้งตำบล เทศบาลตำบลกะปาง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลกะปางทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหงส์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองหงส์ทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลควนกรด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลควนกรดทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลนาไม้ไผ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาไม้ไผ่ทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลนาหลวงเสน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาหลวงเสนทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลเขาโร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเขาโรทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำตก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลน้ำตกทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาโพธิ์ทั้งตำบล องค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเขาขาวทั้งตำบล แหล่งท่องเที่ยว ตำบลถ้ำใหญ่ น้ำตกโยง น้ำตกปลิว ถ้ำพระหอ เทศบาลเมืองทุ่งสง ถ้ำตลอด สวนสาธารณะพฤกษาสิรินธร ศาลเจ้าแม่กวนอิม สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ตลาดชุมทางทุ่งสง ตลาดโต้รุ่ง การคมนาคม การคมนาคมขนส่งของอำเภอทุ่งสงเป็นการคมนาคมทางบก มีทางหลวงสายต่าง ๆ และทางรถไฟเป็นเส้นทางติดต่อกับชุมชนอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกอำเภอทุ่งสงได้สะดวกโดยแยกออกเป็น ทางรถไฟ สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง นครศรีธรรมราช เนื่องจากอำเภอทุ่งสง เป็นที่ตั้งของสถานีชุมทางรถไฟ โดยมีชื่อว่า สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ดังนั้นรถไฟโดยสารทุกขบวนที่เดินทางผ่านสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง จะต้องหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสงนี้ ทำให้การเดินทางโดยรถไฟมายังและจากอำเภอทุ่งสง ได้รับความสะดวกอย่างยิ่ง เนื่องจากมีรถไฟให้เลือกใช้บริการหลายขบวนต่อวัน อีกทั้งยังมีชั้นโดยสารให้เลือกใช้บริการที่หลากหลาย นอกจากนี้ สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ยังเป็นจุดแวะเติมน้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำที่ใช้บนขบวนรถไฟอีกด้วย ทางรถยนต์ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 (ชุมพร-พัทลุง) เชื่อมอำเภอทุ่งสงเข้ากับอำเภอและจังหวัดใกล้เคียง เช่น อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นเส้นทางสายหลักสำหรับการเดินทางไป กรุงเทพมหานคร และ สงขลา ( หาดใหญ่ ) ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 403 (ต่อเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช-บรรจบทางของเทศบาลเมืองกันตัง) เริ่มจากเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ผ่านเทศบาลตำบลชะมาย เทศบาลตำบลที่วัง เทศบาลตำบลกะปาง ไปอำเภอรัษฎาและอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4110 (ทุ่งสง-พระแสง) เชื่อมการคมนาคมระหว่างอำเภอทุ่งสงกับอำเภอทุ่งใหญ่ โดยผ่านพื้นที่ของตำบลเขาขาว ตำบลนาโพธิ์ ตำบลควนกรด มาบรรจบกับ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ในหมู่ที่ 1 บ้านหนองหว้า ตำบลชะมาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4211 [ แยก ทางหลวงหมายเลข 41 (แก้วแสน) - นาบอน เชื่อมการคมนาคมระหว่างอำเภอทุ่งสงกับอำเภอนาบอน ผ่านตำบลหนองหงส์ และมาเชื่อมติดต่อกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ในหมู่ที่ 7 บ้านนาไม้ดัก ตำบลหนองหงส์ ทางรถประจำทางปรับอากาศ ทุ่งสง-นครศรีธรรมราช ทุ่งสง-สุราษฎร์ธานี ทุ่งสง-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต กรุงเทพ-ทุ่งสง กรุงเทพ-ทุ่งสง-เชียรใหญ่ กรุงเทพ-ทุ่งสง-ตรัง-สตูล กรุงเทพ-ทุ่งสง-พัทลุง-สตูล ทางรถ ทุ่งสง-นครศรีธรรมราช ทุ่งสง-ตรัง รถตู้โดยสารประจำทางปรับอากาศ ทุ่งสง-นครศรีธรรมราช ทุ่งสง-ตรัง ทุ่งสง-ลำทับ-กระบี่ ทุ่งสง-หาดใหญ่ ทุ่งสง-สุราษฎร์ธานี ทุ่งสง-ทุ่งใหญ่ ที่มา นครศรีธรรมราช, จังหวัด. (2527). ประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช: จังหวัดนครศรีธรรมราช. สืบค้น https://th.wikipedia.org