17 มกราคม, 2568
อำเภอร่อนพิบูลย์
คำขวัญ: อุดมสินแร่ เมืองแม่เศรษฐี ผลไม้พันธุ์ดี มีปศุสัตว์ เกจิหลวงพ่อ ใบพ้อสานพัด ดุกย่างรสจัด ทิวทัศน์รามโรม
ร่อนพิบูลย์ เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการจัดตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ ร.ศ. 116 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2440
ประวัติ
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีการจัดระเบียบการปกครองแผ่นดินเป็นแบบเทศาภิบาล ร่อนพิบูลย์เป็นแขวงหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นในมณฑลนครศรีธรรมราช โดยประกาศจัดตั้งเมื่อ พ.ศ. 2493 ต่อมาได้เปลี่ยนคำเรียกเขตการปกครอง จากแขวงเป็นอำเภอ อำเภอร่อนพิบูลย์ ได้ชื่อมาจาก "บ้านร่อน" ด้วยที่ราษฎรส่วนใหญ่มีอาชีพร่อนแร่ขาย เมื่อมีการจัดตั้งแขวงขึ้น จึงได้ใช้ชื่อว่า "ร่อนพิบูลย์" และยังมีความหมายบ่งบอกถึงดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยสินแร่ ซึ่งเดิมทีการทำเหมืองแร่เป็นประเภทเหมืองขุดเจาะ
ครั้นถึง พ.ศ. 2440 สมัยรัชกาลที่ 5 กรุงรัตนโกสินทร์ ทางราชการได้จัดระเบียบการปกครองส่วนท้องที่ของเมืองนครศรีธรรมราชเสียใหม่ ตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ ร.ศ. 116 โดยแบ่งเขตปกครองเป็น 9 อำเภอ คือ อำเภอกลางเมือง อำเภอเบี้ยซัด อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอสิชล อำเภอลำพูน อำเภอฉวาง อำเภอทุ่งสง อำเภอเขาพังไกร และอำเภอกลาย
พ.ศ. 2466 แยกพื้นที่ตำบลชะอวด ตำบลท่าประจะ ตำบลท่าเสม็ด ตำบลวังอ่าง และตำบลเคร็งจากอำเภอร่อนพิบูลย์ มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอชะอวด และกำหนดให้ขึ้นการปกครองกับอำเภอร่อนพิบูลย์
พ.ศ. 2490 ตั้งตำบลควนชุม แยกออกจากตำบลควนพัง ตั้งตำบลเสาธง แยกออกจากตำบลหินตก ตั้งตำบลวังอ่าง แยกออกจากตำบลท่าประจะ ตั้งตำบลเคร็ง แยกออกจากตำบลท่าเสม็ด
พ.ศ. 2492 โอนพื้นที่หมู่ที่ 6 (ในตอนนั้น) ของตำบลควนพัง อำเภอร่อนพิบูลย์ ไปขึ้นกับตำบลท้องลำเจียก อำเภอเชียรใหญ่
พ.ศ. 2496 ยกฐานะจากกิ่งอำเภอชะอวด อำเภอร่อนพิบูลย์ เป็น อำเภอชะอวด
พ.ศ. 2498 จัดตั้งสุขาภิบาลร่อนพิบูลย์ ในท้องที่บางส่วนของตำบลร่อนพิบูลย์
พ.ศ. 2508 เปลี่ยนแปลงเขตสุขาภิบาลร่อนพิบูลย์[6] เพื่อความเหมาะสมในการบริหารกิจการและการทะนุบำรุงท้องถิ่น
พ.ศ. 2512 จัดตั้งสุขาภิบาลเขาชุมทอง ในท้องที่หมู่ที่ 1, 2 ตำบลควนเกย
พ.ศ. 2523 ตั้งตำบลทางพูน แยกออกจากตำบลเสาธง
พ.ศ. 2535 ตั้งตำบลนาหมอบุญ แยกออกจากตำบลสามตำบล
พ.ศ. 2536 จัดตั้งสุขาภิบาลหินตก ในท้องที่หมู่ที่ 3, 4, 5, 6 และหมู่ที่ 9 ตำบลหินตก
พ.ศ. 2536 ตั้งตำบลทุ่งโพธิ์ แยกออกจากตำบลควนเกย ตั้งตำบลควนหนองคว้า แยกออกจากตำบลควนเกย ตำบลควนพัง และตำบลควนชุม[11] และโอนพื้นที่ตำบลทุ่งโพธิ์ และตำบลควนหนองคว้า จากอำเภอร่อนพิบูลย์ ไปขึ้นกับอำเภอจุฬาภรณ์
พ.ศ. 2537 แยกพื้นที่ตำบลบ้านควนมุด ตำบลบ้านชะอวด จากอำเภอชะอวด และตำบลควนหนองคว้า ตำบลทุ่งโพธิ์ ตำบลนาหมอบุญ ตำบลสามตำบล จากอำเภอร่อนพิบูลย์ มาตั้งเป็น อำเภอจุฬาภรณ์[12] เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในวโรกาสที่ทรงมีพระชันษาครบ 3 รอบ ในปีพุทธศักราช 2536
พ.ศ. 2539 แยกพื้นที่ตำบลเชียรเขา ตำบลดอนตรอ ตำบลสวนหลวงจากอำเภอเชียรใหญ่ และตำบลทางพูนจากอำเภอร่อนพิบูลย์ มาตั้งเป็น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ[13] เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะจากสุขาภิบาลร่อนพิบูลย์ สุขาภิบาลเขาชุมทอง และสุขาภิบาลหินตก เป็นเทศบาลตำบลร่อนพิบูลย์ เทศบาลตำบลเขาชุมทอง และเทศบาลตำบลหินตกตามลำดับ[14]
วันที่ 24 กันยายน 2547 ยุบองค์การบริหารส่วนตำบลควนเกยรวมกับเทศบาลตำบลเขาชุมทอง[15]
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอร่อนพิบูลย์มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอใกล้เคียง ดังนี้
ทิศเหนือติดต่อกับอำเภอลานสกาและอำเภอพระพรหม
ทิศตะวันออกติดต่อกับอำเภอเฉลิมพระเกียรติ
ทิศใต้ติดต่อกับอำเภอชะอวดและอำเภอจุฬาภรณ์
ทิศตะวันตกติดต่อกับอำเภอทุ่งสง
อำเภอร่อนพิบูลย์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางรถยนต์ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีทางหลวงหมายเลข 403 ตอนอำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์ ตัดผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอ
ลักษณะภูมิประเทศ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1.บริเวณเทือกเขา ได้แก่ บริเวณพื้นที่ด้านทิศตะวันตกติดเทือกเขานครศรีธรรมราชตลอดแนว ได้แก่ พื้นที่ตำบลควนเกย ตำบลร่อนพิบูลย์ และทิศเหนือติดเทือกเขาหลวง ได้แก่พื้นที่บางส่วนของตำบลร่อนพิบูลย์และตำบลหินตก
2.บริเวณที่เป็นที่ราบตอนกลาง เป็นพื้นที่ส่วนของตำบลควนเกย ตำบลร่อนพิบูลย์ ตำบลหินตก ตำบลควนพัง ตำบลเสาธง และตำบลควนชุม
3.บริเวณที่เป็นที่ราบลุ่ม เป็นที่ราบลุ่มและดินพรุ คือ พื้นที่บางส่วนของตำบลควนพังและตำบลเสาธง
ด้านเศรษฐกิจ
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางเกษตรเป็นหลัก คือ การทำสวนยาง สวนกาแฟ สวนโกโก้ และการทำนา เนื่องจาการปลูก ยางพารามาก ดังนั้นจึงมีโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปยางดิบต่าง ๆ เช่น โรงรมยาง โรงงานผลิต แอร์รายซีส เพื่อรับรองผลผลิต อำเภอนาบอนยังเป็นที่ตั้ง ขององค์การสวนยางนาบอนที่สำคัญของการยาง ในเขตนครศรีธรรมราช สามารถผลิตยางออกไปจำหน่ายในต่างประเทศปีละมากกว่า 250,000 ตัน ทำรายได้แก่ประเทศปีละประมาณ 9,000 ล้านบาท
การเกษตร
อาชีพหลัก ประชากรในอำเภอร่อนพิบูลย์ประกอบอาชีพต่าง ๆ ดังนี้
การเกษตรเป็นหลัก ได้แก่ นาข้าว ยางพารา พืชผัก พืชไร่ ไม้ผล ปาล์มน้ำมัน ไร่นาส่วนผสม เป็นต้น
การปศุสัตว์ ได้แก่ ไก่เนื้อ/ไก่พื้นเมือง/ไก่ไข่ สุกร เป็ดเทศ เป็ดไข่ โคพื้นเมือง เป็ดเนื้อ แพะ โคนม ห่าน กระบือ แกะ เป็นต้น
การประมงโดยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลา กบ เป็นต้น
การอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับใบอนุญาตดำเนินการและประกอบการ เช่น โรงงานโม่หิน โรงงานปูนขาว โรงงานผลิตท่อซีเมนต์ โรงงานแปรรูปไม้เพื่อประดิษฐ์กรรม โรงงานแปรรูปไม้ยาง โรงงานผสมยางแอสฟัลล์ เหมืองแร่ เป็นต้น และอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น ผลิตพัดใบพ้อ ผลิตเครื่องจักรสาน ผลิตลูกจันทร์
สถานที่สำคัญและการท่องเที่ยว
วัดร่อนนา (แม่เศรษฐี)
แม่เศรษฐี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองร่อนพิบูลย์ เป็นวัดเก่าแก่โบราณมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าวัดร่อนนาเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน คือ พระพุทธรูปอุ้มบาตรปาง พระร่วง เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวร่อนพิบูลย์และจังหวัดนครศรีธรรมราช คือ องค์พระแม่เศรษฐีอายุประมาณ 700-800 ปี
วัดร่อนนา ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หากขับมาบนถนนพหลโยธินให้เลี้ยวเข้ามาทางฝั่งสถานีตำรวจร่อนพิบูลย์ ตรงเข้ามาประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่หมู่บ้านร่อนนาแล้วขับตรงมาจนสุดทางจะพบกับวัดตั้งอยู่
เวลาเปิด เปิดให้คนเข้านมัสการการองค์แม่เศรษฐีตั้งแต่เวลา 6:00-18:00 น. ของทุกวัน คนส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้ขอพรให้เกิดความสิริมงคลแก่ครอบครัว และยังมีคนมาขอลูกกับแม่เศรษฐีและสมหวังดังปรารถนาไปแล้วมากมาย หากใครสมหวังมักจะนำรูปถ่ายมาถวายให้เป็นลูกของเจ้าแม่อีกด้วย (Trip.com. (ม.ป.ป.). วัดร่อนนา (แม่เศรษฐี). สืบค้นจาก https://th.trip.com/moments/detail/nakhon-si-thammarat-1447082-14502709)
เขารามโรม
เขารามโรมเป็นยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 986 เมตร มีเทือกเขาทีสลับซับซ้อนทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสามารถมองเห็นได้ 360 องศา มีสภาพเป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์มาก มีพันธ์ไม้เฟิร์นล้านปี มหาสะดำ ดอกไม้นานาพันธ์ และสัตว์ป่านานาชนิดเต็มไปทั่วพื้นที่ มีถนนพื้นแข็งถาวรที่รถยนต์เข้าถึงได้สะดวก สามารถมองเห็นทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและที่สำคัญเป็นยอดเขาที่สามารถมองเห็นชายทะเลแหลมตะลุมพุกไปถึง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพระพรหม อำเภอทุ่งสง และยอดเขาเหมนได้อย่างเด่นชัด เขารามโรมเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในอำเภอร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ระหว่างอำเภอเมืองนครศรีฯกับอำเภอทุ่งสงเส้นทางรถยนต์ที่ผ่านอำเภอร่อนพิบูลย์ คือ ทางหลวงหมายเลข 403 ส่วนทางขึ้นเขารามโรม จะต้องเข้าผ่านไปทางตลาดสดร่อนพิบูลย์แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปทาง บ้านสวนจันทร์จนถึงสี่แยกบ้านเถลิงแล้วเลี้ยวซ้ายจะสังเกตุป้ายทางขึ้นเขารามโรมอีก 9 กม. เป็นถนนคอนกรีตจนถึงเขารามโรม ซึ่งจะสังเกตุเห็นเสาอากาศส่งของสถานีโทรทัศน์อยู่ด้านบนส่วนความสูงของเขารามโรมอยู่ที่ประมาณ 986 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 19-26 องศาเซนติเซียดตลอดทั้งปี อากาศหนาวที่สุดอยู่ประมาณเดือน ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
ที่มา
สืบค้น : https://th.wikipedia.org/wiki/อำเภอร่อนพิบูลย์
สืบค้น https://library.wu.ac.th/NST_localinfo/amphur/ronphibun/