01 ธันวาคม, 2567

เพลงบอก เพลงพื้นบ้านภาคใต้

เพลงบอก เพลงพื้นบ้านภาคใต้
ความเป็นมา เพลงบอก เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านภาคใต้ประเภทหนึ่ง บริเวณจังหวัดภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง ได้แก่ จังหวัด จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสงขลา ซึ่งนิยมเล่นกันแพร่หลายที่สุดในวันสงกรานต์ เพื่อเป็นการป่าวประกาศให้ชาวบ้านได้รู้โดยทั่วกันว่าวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว หรือใช้เป็นการบอกเรื่องราวข่าวสารต่าง ๆ เช่น บอกงานบุญกุศล เพราะในสมัยโบราณคนที่รู้หนังสืออ่านออกเขียนได้มีน้อย กิจการการพิมพ์ก็ไม่แพร่หลายโดยเฉพาะรายละเอียดการเปลี่ยนปี หรือการประกาศสงกรานต์ประจำปีไม่ได้มีการพิมพ์ปฏิทินอย่างเช่นปัจจุบัน เพลงบอกมีลักษณะของการแสดงเป็นการร้องปากเปล่า ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกโดยใช้ถ้อยคำที่ง่าย ๆ แต่ใช้โวหารหรือการเปรียบเทียบที่คมคาย สมัยก่อนเพลงบอกเปรียบเสมือนกระบอกเสียงในการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองจากผู้แสดงไปสู่ชาวบ้าน สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (2558) ได้กล่าวว่าเพลงบอกนั้นประกอบด้วยคำ 2 คำ คือคำว่า “เพลง” กับคำว่า “บอก” เพลงหมายถึงสำเนียงขับร้อง, ทำนองดนตรี หรือชื่อการร้องแก้กัน ส่วนบอกหมายถึงพูดให้รู้หรือเล่าให้ฟัง เพราะฉะนั้นเพลงบอกเพลงเล่าเรื่องหรือเล่าเป็นเพลง,พูดเป็นเพลง เพลงบอกเป็นเพลงพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีการแพร่กระจายทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ตลอดไปจนถึงคนไทยในประเทศมาเลเซีย จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีนักเล่นเพลงบอกมากที่สุด ทั้งในอดีตและปัจจุบัน จนได้รับสมญานามว่าเมืองเพลงบอก นอกจากมีนักเล่นเพลงบอกเป็นจำนวนมากแล้ว นักเล่นเพลงบอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมชมชอบว่ามีฝีปากคมคายเป็นที่ดีเยี่ยมส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพลงบอกเป็นการละเล่นประเภทการขับร้องที่ต้องใช้สำเนียงภาษาถิ่นใต้ในการร้องบท ตามคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ได้เล่าว่าเพลงบอกนั้นมีมานานแล้ว โดยนักวิชาการและผู้สนใจศึกษาค้นคว้าสืบหาประวัติความเป็นมาของเพลงบอกต่างมีข้อสันนิษฐานตรงกันว่า มีการเล่นเพลงบอกอย่างแพร่หลายในนครศรีธรรมราชมานานแล้ว ประมาณ 150 – 200 ปีที่ผ่านมา โดยมีข้อมูลและเหตุผลประกอบการพิจารณา ดังนี้ 1) ชวน เพชรแก้ว เขียนไว้ในหนังสือเพลงบอก และนักเล่นเพลงบอกรุ่นเก่าของเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ.2523 ความว่า “เมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศิลปวัฒนธรรมมาแต่สมัยโบราณ เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าความเจริญทางด้านการศึกษาเล่าเรียน และศิลปวิทยาการ เกิดขึ้นที่เมืองนี้ก่อนในสมัยสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองมาแต่โบราณดังกล่าวแล้ว ก็ชวนให้คิดว่าเพลงบอกน่าจะถือกำเนิดขึ้นที่เมืองนี้ก่อน แ้วแพร่กระจายออกไปยังจังหวัดใกล้เคียง คือ สุราษฎร์ธานี ชุมพร ตรัง พัทลุง และสงขลา” (ชวน เพชรแก้ว, 2523, น. 4-5) “การเล่นเพลงบอกเป็นศิลปะของชาวภาคใต้โดยแท้ ไม่ได้รับเอามาจากที่ใด และการเล่นชนิดนี้น่าจะเริ่มที่เมืองนครศรีธรรมราชอย่างแน่นอนเพราะเมืองนครฯ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับเป็นพันปี ศิลปวัฒนธรรมและวิชาการต่าง ๆ ก็เริ่มต้นที่เมืองนี้” (ขุนอาเทศคดี, 2523) “…เชื่อว่าเพลงบอกต้องเป็นการเล่นรุ่นเก่าของเมืองนครศรีธรรมราชคือ เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองนี้อย่างแน่นอน… นักเล่นเพลงบอกของเมืองนี้มีมากมาย และมีแบบฉบับการเล่นที่เป็นแบบของตัวเอง นักเล่นเพลงบอกรุ่นเก่า เช่น นายเรือง นาใน นายควาย ท่านพานรักษ์ นายช่วย เสมาชัย ก็เป็นชาวเมืองนครศรีธรรมราชทั้งสิ้น” (เนตร ชลารัตน์, 2520) 2) พร้อม บุญสุข เขียนไว้ในวารสาร วิชชา ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 มิถุนายน – กันยายน 2519 หน้า 192 ความว่า “พอถึงปลายเดือนสี่ต่อกับต้นเดือนห้า ซึ่งย่างเข้าเขตตรุษย์สงกรานต์ ถ้าท่านท่องเที่ยวไปในท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง หรือสงขลา ตอนพลบค่ำมักจะได้ยินเสียง เอ้ๆ อ้าๆ ตามละแวกบ้านใกล้เรือนเคียง นั่งแหละคือเสียงของนักเพลงลูกทุ่งของปักษ์ใต้ โดยทั่ว ๆ ไปเรียกกันว่า “เพลงบอก” 3) สารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา หน้า 2542-2543 บันทึกเรื่องเพลงบอกไว้ดังนี้ เพลงบอก เป็นเพลงพื้นเมืองที่นิยมเล่นแพร่หลายที่สุด ในสมัยก่อนเมื่อถึงหน้าสงกรานต์ยังไม่มีปฏิทินบอกสงกรานต์แพร่หลายอย่างปัจจุบัน แม่เพลงจำรายละเอียดเกี่ยวกับสงกรานต์ออกป่าวประกาศแก่ชาวบ้าน โดยร้องเป็นเพลงพื้นบ้าน มีลูกคู่รับเป็นทำนองเฉพาะ เพลงดังกล่าวจึงได้ชื่อว่า “เพลงบอก” ด้วยเหตุนี้
ประเภทของเพลงบอก • เพลงบอกบอกสงกรานต์ เพลงบอกบอกสงกรานต์ถือเป็นการละเล่นที่เป็นจุดเริ่มต้นของเพลงบอก จะเล่นกันราว ๆ ประมาณปลายเดือน 4 หรือย่างเข้าเดือน 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวนาทางภาคใต้ใต้ส่วนใหญ่ทำการเก็บเกี่ยวข้าวขึ้นยุ้งฉางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนพลบค่ำตามละแวกบ้านจะได้ยินเสียงเพลงบอกแทบทุกบ้านของจังหวัดนครศรีธรรมราช คณะเพลงบอกจะออกตระเวณตามบ้านใกล้เรือนเคียง โดยมีบุคคลซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่บ้านนั้น ๆ เป็นคนนำทางคอยไปปลุกเจ้าของบ้านให้เปิดประตูรับเจ้าของบ้านจะเปิดประตูรับ ก็ต่อเมื่อเขาแน่ใจว่าคนที่มานั้นเป็นผู้ซึ่งเขารู้จักดี ทั้งนี้เพราะว่าบางทีก็มีการสวมรอยของผู้ร้ายมาทำทีเป็นเพลงบอก แล้วเข้าปล้นบ้านก็มี เมื่อเจ้าของบ้านเปิดประตูรับแม่เพลงก็จะขับกล่อมเพลงบอกขึ้นในทันที เนื้อความตอนแรกมักจะเป็นบทไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวขมเชยเจ้าของบ้านตามสมควร ต่อจากนั้นเจ้าของบ้านก็จะเชิญขึ้นบนเรือน • เพลงบอกบอกข่าวทั่ว ๆ ไป เพลงบอกบอกข่าวทั่ว ๆ ไป ในการว่าเพลงบอกนอกจากเพลงบอกจะบอกสงกรานต์อันถือเป็นสัญลักษณ์เฉพาะแล้วยังบอกข่าวคราวทั่ว ๆ ไปด้วย เช่น บอกบุญเรี่ยไรในงานบุญงานกุศล ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งและเชิญชวนให้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียง ตลอดจนโฆษณาสินค้าต่าง ๆ เป็นต้น ข่าวที่ใช้เพลงบอกจะเข้าถึงและได้รับความสนใจจากชาวบ้านมากกว่าการสื่อสารธรรมดา เพราะท่วงท่าทำนองลีลาจังหวะ ถ้อยคำ และน้ำเสียง ชวนให้เกิดความหรรษาไปด้วย • เพลงบอกประชัน การละเล่นเพลงบอกเพื่อการประชันเป็นการว่าเพลงอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม ในสมัยก่อนการประชันเพลงบอกส่วนมากจะจัดขึ้นภายในวัด โดยมีแม่เพลงบอกนั่งร้องขับบทกันที่ศาลากลางวัด แม่เพลงผู้อวุโสจะเป็นผู้แสดงฝีปากก่อน ซึ่งจะเริ่มร้องด้วยบทไหว้ครู สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บุคคลสำคัญ และเจ้าบ้านผ่านเมือง เมื่อแม่เพลงร้องจบ ฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มร้องบทไหว้ครูเช่นเดียวกัน • เพลงบอกร้องชา เพลงบอกร้องชาเป็นการร้องบูชาหรือชมเชยสิ่งชองหรือบุคคลที่ควรชมเชยหรือบูชา เช่น ชาขวัญข้าว ชาประธาตุ ชาเจ้านายหรือข้าราชการผู้ใหญ่ ชาผู้อาวุโสและครูอาจารย์ เป็นต้น การร้องชาแม่เพลงจะสรรหาแต่สิ่งดีงาม สวยงามขึ้นมากล่าว เพื่อให้สิ่งของหรือผู้ที่ถูกชาเกิดความมีคุณค่า รู้สึกอิ่มเอมใจ การชาพบได้บ่อยในงานบุญ โดยเพลงบอกจะชาผู้ทำบุญว่าเป็นผู้สูงส่งด้วยคุณธรรมต่าง ๆ ปัจจุบันเพลงบอกได้รับความนิยมลดน้อยลง เนื่องจากถูกแทนที่ด้วยสื่อบันเทิงรูปแบบใหม่ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ ฯลฯ (Utong, Interview, February 2, 2016) ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยทำให้ค่านิยมของคนเปลี่ยนไป เพลงบอกจึงตกอยู่ในภาวะของการแสดงที่ล้าสมัยมีพื้นที่ในสังคมลดน้อยลง จากผลกระทบดังกล่าวทำให้เพลงบอกพยายามปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความทันสมัยและดึงดูดความสนใจจากผู้ชม มีเพลงบอกหลายคณะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พยายามปรับประยุกต์การแสดงเพื่อความอยู่รอด เพลงบอกเป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบันเพลงบอกยังคงเป็นที่รู้จักและได้รับการอนุรักษ์ โดยมีการจัดการแสดงในงานประเพณีและงานเทศกาลต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และสืบทอดศิลปะการแสดงนี้ผ่านการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนและกิจกรรมชุมชน การอนุรักษ์และส่งเสริมเพลงบอกยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ศิลปะการแสดงนี้ยังคงอยู่และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยต่อไป ที่มา https://library.wu.ac.th/NST_localinfo/plengbok/